บุรีรัมย์ร่วมกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมือง

Описание: จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ และมอบพันธุ์ไม้พื้นเมือง 30,000 ต้น ให้กับเครือข่ายชุมชน และเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้ง 23 อำเภอ เพื่อนำไปปลูกเพิ่มพื้นที่สีเขียว และฟื้นฟูระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ

บุรีรัมย์ไทม์ / เมื่อวันที่ 19 พ.ค.66 ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทุ่งเมืองทอง บ้านตามา ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเพื่อสังคม “ปลูกป่าชุมชน เพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” โดยมี นางสาววิภาวัณย์ ว่องวีรชัยเดชา เลขานุการกรมกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ, นายวิทยา ทองสัมฤทธิ์ พลังงานจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ประธานคณะกรรมการปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์ และภาคีเครือข่าย เข้าร่วม

น.ส.วิภาวัณย์ เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 9 แล้ว ที่ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ได้ร่วมกับภาคประชาชน ราชการ ผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม และประชาชนในพื้นที่ ในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม และขับเคลื่อนโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายจังหวัดที่ตั้งเป้าให้บุรีรัมย์เป็นมืองน่าอยู่ ด้วยการมอบกล้าพันธุ์ไม้ ปลูกป่าชุมชน เพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และยั่งยืน โดยได้มีการมอบกล้าพันธุ์ไม้พื้นเมืองจำนวน 30,000 ต้น ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ 8 พันธุ์ ได้แก่ ยางนา 6,000 ต้น ตะเคียน 2,000 ต้น มะฮอกกานี 5,000 ต้น ประดู่ 5,000 ต้น พยุง 3,000 ต้น พะยอม 1,000 ต้น ไม้สัก 5,000 ต้น และไม้แดง 3,000 ต้น โดยทั้งหมดจัดซื้อจากศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและชาวบ้านที่ เพาะกล้าพันธุ์ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกล้าพันธุ์ไม้ทั้งหมดจะกระจายมอบให้กับเครือข่ายชุมชนและเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับทั้ง 23 อำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เป็นกิจกรรมที่ดี ที่ทุกภาคส่วน ได้ให้ความสำคัญในการปลูกกล้าไม้ และได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการวางนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมที่เป็นการปลูกฝังค่านิยมด้านการปลูกต้นไม้ให้แก่เกษตรกร และเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อไม่ให้จังหวัดบุรีรัมย์ตกเป็นเมืองที่แห้งแล้งเหมือนในอดีต โดยได้สนับสนุนให้มีการปลูกไม้มีค่า 58 ชนิด ที่นำมาคำนวณแลกเปลี่ยนเป็นคาร์บอนเครดิต เพื่อนำมาซื้อขายในตลาดคาร์บอนเครดิตในอนาคต ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยโลกแล้วยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งที่สำคัญคือ ผู้ปลูกจะต้องศึกษาคุณสมบัติของไม้แต่ละพันธุ์ เพื่อปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสม ศึกษาเรื่องคาร์บอนเครดิต และต้องมีการติดตามกล้าไม้ที่ชาวบ้านนำไปปลูกว่ามีการดูแลดีหรือไม่ เพื่อให้โครงการดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
//////////////////////