พาณิชย์คุมเข้ม 49 สินค้า แอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ส่งออกสหรัฐฯ

Описание: กรมการค้าต่างประเทศ คุมเข้ม 49 สินค้า ที่มีความเสี่ยงแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ส่งออกไปสหรัฐฯ หลังทรัมป์ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36%

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามเฝ้าระวังการหลบเลี่ยงการใช้มาตรการของสหรัฐฯ จากประเทศอื่น ๆ อย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ศุลกากรสหรัฐฯ ว่า สินค้าที่ส่งออกมีถิ่นกำเนิดไทยจริง โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้กำหนดรายการสินค้าเฝ้าระวังไปสหรัฐฯ จำนวน 49 รายการ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ล้อเหล็กสำหรับรถบรรทุก แผ่นหินเทียม และท่อเหล็ก เป็นต้น โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกจะต้องยื่นขอตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าก่อนขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ C/O Form ทั่วไป

ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะเป็นการตรวจสอบคัดกรองสินค้า เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ จากประเทศอื่นๆ โดยผู้ส่งออกที่ประสงค์จะขอหนังสือรับรองฯ Form C/O ทั่วไป สำหรับการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ต้องผ่านการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าจากกรมฯ ก่อน จึงจะสามารถขอรับหนังสือรับรองฯ Form C/O ทั่วไปเพื่อใช้ประกอบการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐได้

-และจากการทำงานร่วมกับศุลกากรสหรัฐฯ พบว่า การเข้าตรวจสอบกระบวนการผลิตสินค้าของสหรัฐฯ ลดลงจากเดิม 10 รายการ เหลือ 6 รายการ และมีเพียง 2 รายการ ที่พบการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งกรมฯ ได้มีการเพิกถอนหนังสือรับรองฯ C/O Form ทั่วไป และได้มีการกำหนดมาตรการกับผู้ส่งออกรายดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งได้ติดตามเฝ้าระวังกระบวนการขอหนังสือรับรองฯ C/O Form ทั่วไป ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น

พร้อมมีแผนจะเพิ่มรายการสินค้าเฝ้าระวังฯ ที่มีความเสี่ยงสูงในการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ล่าสุดได้ดำเนินการติดตามรายการสินค้าเพิ่มเติม เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงที่อาจมีสินค้า มาแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย โดยจะพิจารณาปรับเพิ่มรายการสินค้าเฝ้าระวังฯ ของกรมฯ ต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/economy/ruan...

-------------------

เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 7 เมษายน 2568
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น.

#เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News )
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com
facebook :   / 3plusnews  
Twitter :   / 3plusnews  
YouTube :    / 3plusnews  
Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews