ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยการผลักดันการพัฒนามาตรฐานนโยบายของภาครัฐและคำแนะนำของ OECD (4/7)

Описание: ในการประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการมีกฎหมายที่ดีและสัมมนาเชิงปฏิบัติการประกอบการเข้าเป็นสมาชิก OECD เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญในเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยการผลักดันการพัฒนามาตรฐานนโยบายของภาครัฐตามหลักสากลและคำแนะนำของ OECD โดยสุนทรพจน์ครั้งนี้จุดประกายให้เห็นว่า การเข้าสู่ OECD ไม่ใช่แค่การเข้าร่วมองค์กรระหว่างประเทศ แต่คือโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตของประชาชนไทยทั้งระบบผ่านการยกระดับคุณภาพของกฎหมาย นโยบาย และกระบวนการกำกับดูแลของภาครัฐให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

📌Key highlights

1. ความสำคัญของการมีกฎหมายที่ดีต่ออนาคตประเทศ
🔹 รัฐบาลไทยต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยใช้ “กฎหมายที่ดี” เป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันนโยบายสาธารณะ
🔹 ไม่ใช่เพียงการเข้าเป็นสมาชิกของ OECD ตามนโยบายรัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นการ “สร้างระบบภายในประเทศให้แข็งแรง โปร่งใส และทันสมัย”
🔹 OECD เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่ก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปและพัฒนาเศรษฐกิจโลกโดยอิงหลักการ Multilateralism, Non-Discrimination และ Sustainable Growth การเป็นสมาชิก OECD ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย แต่คือ "แนวทาง" ที่จะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนากฎหมายและกลไกภาครัฐให้ตอบโจทย์ประชาชนจริง
2. บริบทโลกที่เปลี่ยนไป แรงกดดันใหม่ที่ไทยต้องปรับตัว
🔹 ประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ (Geopolitics) ทำให้กระทบการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวโดยตรง
🔹 ประเด็นเรื่องภาวะโลกร้อน (Climate Change) ทำให้หลายประเทศต้องใช้งบประมาณมากขึ้นในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ แทนที่จะใช้เพื่อการลงทุนพัฒนา
🔹 ประเด็นสังคมสูงวัย ทำให้ประชากรวัยทำงานลดลง กระทบต่อรายได้ภาครัฐ ภาษี และเงินบำนาญ
🔹 พฤติกรรมใหม่จากเทคโนโลยี ทำให้ผู้คนมีพฤติกรรมแบบ “เฉพาะตัว” มากขึ้น ส่งผลให้สังคมรวมอ่อนแรง ต้องปรับวิธีสื่อสารและออกแบบนโยบาย
🔹 ประเทศไทยไม่สามารถใช้วิธี “พัฒนาแบบไทยไทย” ได้อีกต่อไป เพราะแม้จะเหมาะกับบริบทไทย แต่ไม่ทันต่อพลวัตของโลก
3. การปรับระบบกฎหมายไทยให้สอดคล้องกับหลักการสากล
🔹 ระบบกฎหมายไทยในอดีตใช้แนวทาง Top-down เน้นความต้องการของรัฐมากกว่าของประชาชน
🔹 ต้องเปลี่ยนมาใช้กระบวนการที่มีการ รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Consultation) และการประเมินผลกระทบของกฎหมาย (RIA)
🔹 ปัจจุบันมีการบรรจุแนวคิดนี้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 และกฎหมายสำคัญ เช่น พ.ร.บ. หลักเกณฑ์ฯ ปี 2562
🔹 ทุกหน่วยงานต้องสามารถตอบได้ว่า “กฎหมายฉบับนี้จะทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างไร” ไม่ใช่เพียง “ทำตามหน้าที่”
4. การใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการเข้าร่วม OECD
🔹 จุดอ่อนของไทยในการสื่อสารกับ OECD คือ อุปสรรคด้านภาษาและความเข้าใจทางเทคนิคจึงได้พัฒนาระบบ TH2OECD โดยใช้ AI ช่วยแปล วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงระบบกฎหมายไทยกับหลักเกณฑ์ของ OECD
🔹ระบบนี้สามารถนำไปต่อยอดให้ประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักสามารถปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานสากลได้
5. เป้าหมาย
🔹 ต้องการสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานรับแนวคิดของ OECD ลงในภารกิจประจำ โดยมีจุดเน้นว่า ไม่ใช่แค่ทำงานให้เสร็จแต่ต้องทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นจริง
🔹 การปฏิรูปกฎหมายไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลฝ่ายเดียว แต่เป็นภารกิจร่วมของทุกคนในสังคม
🔹 ประเทศไทยต้องการเครือข่ายผู้มีอุดมการณ์ร่วม ที่พร้อมลงมือสร้างสิ่งดีไว้ให้ลูกหลาน