Ep 702 อาหาร 9 อย่างที่ช่วยทำให้ท้องเสียลดลงได้

Описание: โรคท้องร่วง (Diarrhea) คือ ภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลวเกิน 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเหลวเป็นน้ำบ่อยเกิน 1 ครั้ง หรือถ่ายแล้วมีมูกเลือดปน 1 ครั้งต่อวัน พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย
ท้องร่วงเกิดจากอะไร?
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยปัจจัยที่พบได้บ่อย ได้แก่
การติดเชื้อแบคทีเรียจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดหรืออาหารที่ไม่ปรุงสุก
การติดเชื้อไวรัสและมีพยาธิในลำไส้
การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนทำการปรุงหรือรับประทานอาหาร
การใช้ภาชนะที่มีเชื้อโรคหรือสารปนเปื้อน
ลำไส้มีการอักเสบ
อาการของโรคท้องร่วง
ถ่ายบ่อย (มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน)
แน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืด
คลื่นไส้ อาเจียน
บางรายอาจมีไข้
บางรายที่ถ่ายอุจจาระบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมาก อาจรู้สึกหน้ามืดเป็นลม หรือช็อกหมดสติ
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อท้องร่วง
การรักษาและข้อควรปฏิบัติเมื่อท้องร่วง – โดยปกติแล้วผู้ที่มีอาการท้องร่วงจะสามารถหายได้เองและส่วนใหญ่จะมีอาการที่ไม่รุนแรง โดยพบว่าผู้ป่วยส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิตได้ สำหรับผู้ที่มีอาการท้องร่วงสามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้นได้ดังนี้
ดื่มน้ำเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่
รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด
งดอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของหมักดองต่างๆ
หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ เน้นการรับประทานอาหารที่ปรุงสุก ถูกสุขลักษณะ
ล้างมือให้สะอาดเป็นประจำก่อนรับประทานอาหาร ทุกครั้ง
หากสงสัยว่ามีอาจติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์
หากมีอาการท้องร่วงนานเกิน 3 วัน มีไข้สูงมากกว่า 38.5 องศาเซลเซียส มีอาการขาดน้ำ ถ่ายมีเลือดปนกลิ่นอุจจาระมีกลิ่นเหม็นคล้ายของเน่า (เป็นอาการท้องเสียชนิดติดเชื้อ) ร่วมกับอาการปวดท้องเกร็ง ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง โดยแพทย์จะทำการตรวจหาเชื้อเบื้องต้น เช่น ตรวจอุจจาระเพื่อหาเชื้อ, ตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุ, การส่องกล้องเพื่อตรวจลำไส้ใหญ่
ข้อสำคัญก็คือเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ มักจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ให้รับประทานเฉพาะอาหารอ่อนที่ย่อยได้ง่ายงดอาหารและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ด
โรคท้องร่วงกับการทานผลไม้และสมุนไพร 9 อย่าง ที่ช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
1.ฝรั่ง
ฝรั่งเป็นผลไม้ที่สามารถใช้ได้ทั้งผลและใบในการรักษาอาการถ่ายไม่หยุด โดยนำฝรั่งผลอ่อน 1 ผล ฝนกับน้ำปูนใส ดื่มเมื่อมีอาการ หรือหากจะใช้ใบในการรักษา ควรใบฝรั่งยอดอ่อนๆ สัก 2-3 ยอด เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนกินหรือเลือกใบแก่ 10-15 ใบ นำมาปิ้งให้เกรียม จากนั้นเอามาชงน้ำดื่ม ใช้จิบแก้อาการท้องเสียได้
2.ทับทิม
การใช้ทับทิมเพื่อรักษาอาการถ่ายไม่หยุด สามารถใช้ได้ทั้งผลและเปลือกของมัน ในกรณีที่ใช้เปลือกในการรักษาอาการนั้น ควรใช้เปลือกทับทิมแห้งประมาณ 1/4 ผล ฝนกับน้ำปูนใส ทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ทุกครั้งที่มีอาการ จะช่วยบรรเทาอาการเป็นอยู่ได้
3.มังคุด
สำหรับใครที่มีอาการถ่ายไม่หยุด แนะนำให้ใช้เปลือกมังคุดแห้งประมาณ 1/2 ผล มาย่างไฟให้เกรียม แล้วนำไปฝนกับน้ำต้มสุกประมาณ 100 มิลลิลิตร ดื่มทุกๆ 2 ชั่วโมงก็ช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน
4.กล้วยน้ำว้า
ในส่วนของกล้วยน้ำว้าที่สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการถ่ายไม่หยุด ให้เลือกทานกล้วยน้ำว้าห่ามสีเขียวออกเหลืองนิดๆ ทานประมาณ 1 ผล จะช่วยให้อาการดีขึ้น
5.น้ำมะพร้าว
ลดอาการอ่อนเพลียจากการสูญเสียน้ำเนื่องจากในน้ำมะพร้าวมีเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายสูง ที่สำคัญร่างกายสามารถดูดซึมเอาเกลือแร่และกลูโคสจากน้ำมะพร้าวไปใช้ได้ทันที
6.ฟ้าทะลายโจร
ใช้ใบฟ้าทะลายโจรมารักษาอาการอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อได้เช่นกัน เพียงนำไปผึ่งลมให้แห้งสนิท แล้วบดเป็นผง จากนั้นเอามาปั้นกับน้ำผึ้ง นำมากินเป็นยากลอนครั้งละ 1.5 กรัม กินวันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร วิธีการกินที่ง่ายสุด : คือการกินในรูปแบบแคปซูล 500 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น หรือกินห่างกันทุกๆ 4 ชั่วโมง ก็ได้เช่นกัน เมื่อหยุดถ่ายหรืออาการดีขึ้นก็ควรหยุดกินฟ้าทะลายโจรทันที
7.กระชาย
การรักษาอาการถ่ายไม่หยุดด้วยกระชายนั้น ควรเลือกใช้กระชายเหง้าสดประมาณ 1-2 เหง้า นำมาปิ้งไฟแล้วฝนกับน้ำปูนใส ทานครั้งละ 1-2 ช้อนชาทุกครั้งที่มีอาการ
8. ขมิ้นชัน
มีสารเคอร์คูมิน ช่วยรักษาอาการท้องเสียได้ เพราะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อ แก้อาการระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติได้ เช่น อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ได้เช่นกัน รวมไปถึงช่วยสมานแผล รักษาโรคกระเพาะอาหาร และกรดไหลย้อน
9.ใบชาเขียว, ชาขาว
มีสารแทนนินอยู่เป็นจำนวนมาก จึงถูกจัดว่าเป็นสมุนไพรแก้ท้องเสียด้วย
วิธีกิน: การจิบ หรือดื่มชาให้ได้สารแทนนินนั้นมันมีวิธีการของมันอยู่ คือ เราต้องเเช่ชา หรือต้มชา ให้นานมากที่สุด มากกว่า 5 นาทีขึ้นไป สารแทนนินในใบชาก็จะค่อยๆออกมา นั้นแหละเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการดื่มเพื่อรักษาอาการท้องเสีย