เพื่อไทยยันการเมืองไทยต้องไม่เหมือนปี 62 ย้ำเพื่อไทยไม่เอากัญชาเสรี เตือนใครแจ้งเท็จ โดนฟ้องกลับแน่

Описание: เพื่อไทยยันการเมืองไทยต้องไม่เหมือนปี 62 ประชาชนมีทางออก ย้ำเพื่อไทยไม่เอากัญชาเสรี เตือนใครแจ้งเท็จ โดนฟ้องกลับแน่

(5 พฤษภาคม 2566) เวลา 11.00 น. พรรคเพื่อไทยนำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดร.ลิณธิภรณ์ วรินวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.แบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวแสดงจุดยืนการเมืองไทยต้องไม่เหมือนปี 62 ประชาชนต้องมีทางออก ณ พรรคเพื่อไทย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันในการเดินหน้าประชาสัมพันธ์นโยบายไปสู่พี่น้องประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง แต่พบว่าผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแกนนำพรรคเพื่อไทย โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่าการปราศรัยของพรรคเพื่อไทยในการคัดค้านกัญชาโดยไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นการใส่ความ และกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยนั้น

1.การพูดของนายเศรษฐาบนเวทีปราศรัยเป็นเรื่องปกติในการหาเสียง การวิเคราะห์ว่าต้องเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคทั้ง 2 ใบเพื่อให้ชนะแลนด์สไลด์ เพราะถ้าไปเลือกพรรคอื่น อาจทำให้ลุงอยู่ต่อ ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการหาเสียง โดยดูจากการเมืองในปัจจุบัน พฤติกรรมของหัวหน้าพรรคบางคนในอดีต เช่น ในการเลือกตั้งปี 2562 เคยบอกว่าจะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ แต่ไปโหวตให้และนำพรรคของตนเป็นนั่งร้านให้พลเอกประยุทธ์มา 4 ปี

2.ส่วนเรื่องกัญชานั้น พรรคเพื่อไทยไม่เอากัญชาเสรี เอากัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น พรรคเพื่อไทย ไม่เคยมีส่วนร่วมในการปลดกัญชาออกจากยาเสพติด เรารังเกียจยาเสพติด และถ้าเป็นรัฐบาลจะหยุดกัญชาเพื่อสันทนาการหรือการพี้เสรีที่รัฐบาลนี้เปิดช่องไว้ทันที

3.การแจ้งความดำเนินคดีถือเป็นสิทธิ์ แต่ขอยืนยันว่าสิ่งที่นายเศรษฐาพูด ไม่มีเนื้อหาตอนใดที่ผิดกฎหมายเลย ไม่ใช่ความเท็จ ไม่เป็นการใส่ร้าย เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ถ้ามีการไปแจ้งความทั่วประเทศจริงตามข่าว คนจะตั้งคำถามว่าเป็นการแก้เกี้ยวหรือกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ เป็นการใช้สิทธิ์โดยสุจริตหรือไม่ ผลเสียจะเกิดกับผู้แจ้งเอง และถ้าแจ้งเท็จ จะโดนฟ้องกลับแน่

4.ที่นายอนุทินพูดว่า ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ส่ายหน้าจากการปราศรัยของนายเศรษฐานั้นไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย เป็นการดิสเครดิตนายเศรษฐาโดยไม่มีมูลความจริงเลย ในทางตรงข้าม พรรคเพื่อไทย รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งในระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่ออยู่ข้างหลังนายเศรษฐา ยืนเคียงข้าง เชื่อมั่นในนายเศรษฐา และขอบคุณในการทำหน้าที่แคนดิเดทนายกฯของพรรคอย่างดียิ่ง เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีวุฒิภาวะ มีความเป็นผู้นำสูง และมั่นใจว่าจะพาพรรคเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งครั้งนี้

5.นายเศรษฐามีบุคลิกนอบน้อมให้เกียรติผู้อื่น และที่ผ่านมาได้หลีกเลี่ยงการโจมตีในทางลบต่อพรรคการเมืองอื่น แต่ในขณะเดียวกันมีจุดยืนที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ต่อความคิดและคำพูดของตน และการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กลับเป็นประโยชน์ต่อการทำงานการเมือง เพราะการบริหารประเทศต้องใช้ทักษะการบริหารจัดการทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อนำพาประเทศออกจากหลุมดำที่ประสบอยู่

“อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยจะมุ่งมั่นเดินหน้าบอกประชาชนว่าถ้าเลือกเพื่อไทยแล้วชีวิตจะดีขึ้นอย่างไร และทำไมต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบให้แลนด์สไลด์ เพื่อไปโหวตให้ชนะเสียง สว. 250 คน และเป็นรัฐบาลผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ เลือกพรรคเพื่อไทย ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นายประเสริฐ กล่าว