ycliper

Популярное

Музыка Кино и Анимация Автомобили Животные Спорт Путешествия Игры Юмор

Интересные видео

2025 Сериалы Трейлеры Новости Как сделать Видеоуроки Diy своими руками

Топ запросов

смотреть а4 schoolboy runaway турецкий сериал смотреть мультфильмы эдисон
Скачать

สกทาคามี อนาคามี ต่างกันอย่างไร ผู้ใดจะไม่กลับมาเกิดอีก

Автор: เล่าธรรมะ

Загружено: 2025-07-20

Просмотров: 7949

Описание: คุณเคยสงสัยไหมว่า คนที่เข้าถึงธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริงนั้น เขาเป็นอย่างไร
ทำไมบางคนจึงเหมือนหลุดพ้นจากความทุกข์
แต่บางคนแม้จะฟังธรรมเท่าไรก็ยังติดยึด ยังไม่เปลี่ยนแปลง

พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า พระอริยบุคคลนั้นมีอยู่จริง และมีอยู่สี่ระดับ
ซึ่งแต่ละระดับไม่ใช่สิ่งลึกลับ ไม่ใช่สิ่งไกลตัว
แต่เป็นเส้นทางของจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปตามลำดับของการรู้แจ้งธรรม

วันนี้เราจะพาไปเรียนรู้พระอริยบุคคลสี่จำพวก
พร้อมทั้งอธิบายลักษณะของคนที่บรรลุแต่ละระดับอย่างชัดเจน

เรามาเริ่มกันที่ระดับแรก

ระดับที่หนึ่ง
โสดาบัน หรือ ผู้เข้าสู่กระแสธรรม

คำว่าโสดาบัน แปลตรงตัวว่า ผู้เข้าถึงกระแส
หมายถึงผู้ที่จิตได้สัมผัสกระแสแห่งพระนิพพานแล้ว
ไม่ย้อนกลับไปเป็นปุถุชนอีก

ลักษณะของผู้เป็นโสดาบันคือ
เขาจะละกิเลสขั้นต้นได้สามอย่าง
หนึ่งคือ สักกายทิฏฐิ หรือความเห็นว่านี่คือตัวเรา
สองคือ วิจิกิจฉา หรือความลังเลสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
สามคือ สีลัพพตปรามาส หรือความเชื่อมั่นในพิธีกรรม ศีลพรต ว่าจะทำให้หลุดพ้นได้

เมื่อบุคคลใดละสามอย่างนี้ได้ เขาคือโสดาบัน
แม้ยังมีราคะ โทสะ โมหะ แต่ไม่รุนแรงเหมือนปุถุชน
เขาจะไม่ทำบาปอกุศลหนักอีกต่อไป
และที่สำคัญที่สุด คือจะเกิดอีกไม่เกินเจ็ดชาติ แล้วถึงนิพพานแน่นอน

คนที่เป็นโสดาบัน มักมีจิตใจสงบ มีสติ มีเหตุผล
เขาจะไม่คล้อยตามไสยศาสตร์ ไม่ยึดถือพิธีกรรมโดยไร้ปัญญา
เขาเคารพพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง และไม่เคยหลงผิดไปจากทางสายกลาง

ระดับที่สอง
สกทาคามี หรือ ผู้กลับมาเกิดอีกครั้งเดียว

คำว่าสกทาคามี แปลว่า ผู้จะมาอีกครั้งหนึ่ง
หมายถึงเขาจะกลับมาเกิดในโลกมนุษย์เพียงอีกชาติเดียวเท่านั้น
ก่อนจะบรรลุเป็นพระอรหันต์

ผู้ที่เป็นสกทาคามี จะมีคุณสมบัติเหมือนโสดาบัน
แต่มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น
คือเขาละราคะ โทสะ ได้อย่างเบาบางลง
ราคะคือความกำหนัดติดข้อง
โทสะคือความโกรธ ความขัดเคืองใจ

แม้ยังไม่หมดไปทั้งหมด แต่ก็อ่อนกำลังลงมาก
ทำให้จิตใจของเขามั่นคง สงบ และเยือกเย็น

คนที่เป็นสกทาคามี จะไม่หวั่นไหวต่อกิเลสหยาบ
เขาอาจยังมีอารมณ์รัก ชัง เกลียด กลัว
แต่ไม่ปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นครอบงำจิตใจ

เขามีวินัย มีศรัทธา และเห็นภัยในวัฏสงสารอย่างลึกซึ้ง
มักเบื่อหน่ายในความสุขทางโลก ไม่ยึดติดในชื่อเสียงเงินทอง
แม้ยังอยู่ในโลก แต่ใจของเขาเริ่มถอยห่างจากมันแล้ว
ระดับที่สาม
อนาคามี หรือ ผู้ไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีก
อนาคามี แปลว่า ผู้ไม่กลับมาอีก
หมายถึงเขาจะไม่เวียนว่ายตายเกิดในโลกมนุษย์อีก
เมื่อจุติจากชาตินี้ จะไปเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส
เพื่อบรรลุอรหันต์ในที่นั้น
ผู้ที่เป็นอนาคามี
ละราคะและโทสะได้สิ้นเชิง
เขาไม่มีกิเลสทางเพศ ไม่ติดในรูป เสียง กลิ่น รส
ไม่โกรธ ไม่แค้น ไม่หงุดหงิด ไม่ถือโทษ
จิตใจของเขาเปี่ยมด้วยเมตตา เย็นและเบา
เขาสงบในท่ามกลางความวุ่นวาย
และไม่หวั่นไหวแม้โลกจะเปลี่ยนแปลง
คนที่เป็นอนาคามี
มักเป็นผู้ละชีวิตทางโลกแล้ว บวช หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธรรม
เขาพิจารณาชีวิตอย่างลึกซึ้ง
รู้จักความไม่เที่ยงของสังขาร ไม่หลงไหลในรูปธรรม
เขาไม่กลับมาเสพความสุขในโลกนี้อีก
ไม่ว่าชาตินี้เขาจะเป็นฆราวาสหรือบรรพชิต
จิตของเขาก็อยู่ในระดับที่สงัดจากกามทั้งปวงแล้ว
ระดับที่สี่
อรหันต์ หรือ ผู้สิ้นกิเลสแล้ว
อรหันต์คือผู้หมดสิ้นเครื่องร้อยรัดแห่งวัฏสงสาร
ไม่มีความโลภ โกรธ หลงใด ๆ เหลืออยู่
เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งทางกาย วาจา ใจ
ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ จะไม่กลับมาเกิดอีก
หมดเวรหมดกรรมโดยสิ้นเชิง
ท่านมีความเป็นอิสระจากโลก ความยึดถือใด ๆ ไม่อาจดึงท่านไว้ได้
อารมณ์ของพระอรหันต์นั้น ลึกซึ้งและบริสุทธิ์
แม้มีเสียงชม เสียงด่า เสียงสรรเสริญ เสียงนินทา
จิตของท่านก็นิ่งและไม่หวั่นไหว
คนที่เป็นอรหันต์ มักไม่แสดงตน
ท่านอยู่เงียบ ไม่แสวงหาลาภยศ ไม่ยึดติดรูปแบบ
แต่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตา กรุณา
และพร้อมจะให้ธรรมะเพื่อเกื้อกูลผู้อื่นเสมอ
ท่านไม่ต้องสร้างบุญใหม่อีก
เพราะท่านไม่ยึดตัวตน ไม่แสวงหาผล ไม่หวังผล
ท่านจึงเป็นผู้พ้นแล้วโดยแท้
ทั้งหมดนี้ คือพระอริยบุคคลสี่จำพวก
ซึ่งล้วนเป็นผู้ฝึกตนตามลำดับ จากการเห็นธรรม
ละกิเลสตามลำดับ
จนถึงที่สุดคือความหลุดพ้นจากวัฏสงสารโดยสมบูรณ์
การเรียนรู้เรื่องพระอริยบุคคล ไม่ใช่เพื่อจดจำเพียงอย่างเดียว
แต่เพื่อพิจารณาว่า เราอยู่ตรงไหนบนเส้นทางนี้
เราเห็นกิเลสไหม เราพยายามละไหม
เรายังโกรธง่ายไหม เรายังยึดติดไหม
เราหลงในชื่อเสียง รูป รส กลิ่น เสียง อยู่หรือเปล่า
หากเรายังหลง ก็ให้รู้ว่าหลง
หากเรายังยึด ก็ให้รู้ว่ายึด
แล้วเริ่มวาง เริ่มปล่อย เริ่มฝึก
เพราะหนทางของพระอริยบุคคล ไม่ได้ปิดสำหรับใคร
แต่มันจะเปิดให้เฉพาะคนที่ลงมือเดิน
ไม่ใช่แค่สวด ไม่ใช่แค่ฟัง
แต่ต้องฝึก ต้องละ ต้องเห็นจริงด้วยใจ
เมื่อเดินตามธรรม
แม้เรายังไม่บรรลุเป็นพระอริยบุคคล
แต่เราก็จะเข้าใกล้
และมีชีวิตที่สงบ สว่าง และเป็นอิสระมากขึ้นทุกวัน
ขอให้ทุกท่านได้สัมผัสกระแสธรรม
และขอให้ชีวิตนี้ไม่สูญเปล่าจากการพบพุทธศาสนาเลย

Не удается загрузить Youtube-плеер. Проверьте блокировку Youtube в вашей сети.
Повторяем попытку...
สกทาคามี อนาคามี ต่างกันอย่างไร ผู้ใดจะไม่กลับมาเกิดอีก

Поделиться в:

Доступные форматы для скачивания:

Скачать видео

  • Информация по загрузке:

Скачать аудио

Похожие видео

© 2025 ycliper. Все права защищены.



  • Контакты
  • О нас
  • Политика конфиденциальности



Контакты для правообладателей: [email protected]