ภูกระดึงครั้งหนึ่งในชีวิต เดินขึ้น 23 ตุลาคม 2568 ทริป 3 วัน 2 คืน ประทับใจมาก

Описание: ภูกระดึง หรือชื่อเต็มคือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของไทย
ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
ลักษณะทางภูมิประเทศที่โดดเด่น: เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด (คล้ายโต๊ะ) ทำให้บริเวณยอดเขามีพื้นที่ราบกว้างใหญ่ มีความสูงประมาณ 400 - 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล
*ลักษณะของป่าภูกระดึงเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์: มีป่าไม้สน พรรณไม้หายาก (เช่น ก่วมแดง หรือเมเปิ้ล) ทุ่งหญ้า และลำธาร มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด
เป็นสัญลักษณ์ของการพิชิต: การเดินทางขึ้นสู่ยอดภูต้องเดินเท้าขึ้นเขาที่ค่อนข้างท้าทาย เป็น "ปฐมบทแห่งการผจญภัย" ของนักเดินทางหลายคน ซึ่งจะได้รับรางวัลเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและอากาศบริสุทธิ์
จุดชมวิวที่สวยงาม: มีจุดชมวิวที่มีชื่อเสียง เช่น ผาหล่มสัก ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น
เนื่องจากต้องเดินเท้าขึ้นเขาที่สูงชันและระยะทางรวมประมาณ 9 กิโลเมตรเพื่อถึงยอดภู (ไม่รวมการเดินเที่ยวบนยอดภู)
การเดินขึ้นภูกระดึงแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก ๆ คือ ช่วงขึ้นเขา และ ช่วงทางราบ บนยอดภู โดยตลอดเส้นทางขึ้นเขาจะมีจุดพักที่เรียกว่า "ซำ" ซึ่งมีร้านค้าและห้องน้ำให้บริการ
1. ช่วงเดินขึ้นเขา (จากจุดเริ่มต้นถึงหลังแป)
ระยะทางรวมโดยประมาณ: 5.5 กิโลเมตร
ลักษณะเส้นทาง: เป็นทางชัน สลับกับทางราบสั้น ๆ และบันได มีบางช่วงที่ชันมาก (เช่น ซำแฮก)
จุดแวะพัก (ซำ) ที่สำคัญพร้อมระยะทางโดยประมาณจากจุดเริ่มต้น:
| จุดพัก (ซำ) | ระยะทางโดยประมาณ (กม.) | ลักษณะและสิ่งที่น่าสนใจ | จุดที่เดินยาก/ชันที่สุด
| ซำแฮก | 1.0 | ชื่อสื่อถึงความเหนื่อยล้า (หอบแฮก ๆ) เป็นจุดพักแรกหลังจากเดินชันมาพักใหญ่ | ซำแฮก เป็นช่วงที่ชันที่สุดและเป็นจุดที่หลายคนรู้สึกท้อที่สุด
| ซำบอน | 1.5 (จากซำแฮก 0.5 กม.)
| ซำกกกอก | 2.0 (จากซำบอน 0.5 กม.)
| ซำกอซาง | 2.5 (จากซำกกกอก 0.5 กม.)
| ซำกกหว้า | 3.5 (จากซำกอซาง 1.0 กม.)
| ซำกกไผ่ | 4.0 (จากซำกกหว้า 0.5 กม.)
| ซำกกโดน | 5.0 (จากซำกกไผ่ 1.0 กม.)
| หลังแป | 5.5 (จากซำกกโดน 0.5 กม.)
จุดสำคัญ: ถึงยอดภูกระดึง! เป็นลานกว้าง มีป้าย "ครั้งหนึ่งเราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ให้ถ่ายรูป | ช่วงท้ายก่อนถึงหลังแปความชันจะลดลง |
2. ช่วงเดินทางราบ (จากหลังแปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง)
ระยะทางโดยประมาณ: 3.5 - 4.0 กิโลเมตร
ลักษณะเส้นทาง: เป็นทางราบ (เดินสบายขึ้น) ส่วนใหญ่เป็นพื้นทรายนุ่ม ๆ ผ่านป่าสน
ระหว่างทาง: มีจุดถ่ายรูปกับต้นสนสามใบที่โดดเด่นอยู่กึ่งกลางทางเดิน
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง: เป็นจุดพักแรม กางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร และศูนย์กลางในการเดินทางท่องเที่ยวบนยอดภูกระดึงต่อไป
สรุปจุดที่น่าสนใจและจุดที่เดินยาก:
วิวสวย/ความสำคัญ:
หลังแป: จุดที่บ่งบอกว่าคุณได้พิชิตการเดินขึ้นเขาแล้ว (5.5 กม.) ถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิต
ช่วงทางราบจากหลังแปถึงวังกวาง: ผ่านป่าสนสามใบสวยงามแปลกตา
จุดที่เดินยากที่สุด:
ซำแฮก: เป็นช่วงแรกที่ต้องเจอความชันสูง ทำให้เหนื่อยล้าที่สุดและท้อที่สุดในบรรดาซำทั้งหมด
จึงควรเตรียมตัวดังนี้:
การจองล่วงหน้า: ควรจองเข้าอุทยานฯ และที่พัก/เต็นท์ล่วงหน้า (ปัจจุบันนิยมจองผ่านแอปพลิเคชัน)
สภาพร่างกาย: ฝึกซ้อมเดินหรือเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะเป็นการเดินขึ้นเขาที่เหนื่อย
สัมภาระ:
เสื้อผ้า: เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีสำหรับการเดินขึ้น, เสื้อแขนยาว/เสื้อกันหนาวหนาๆ สำหรับพักแรมด้านบนเพราะอากาศจะหนาวเย็นมาก (โดยเฉพาะในฤดูหนาว), ผ้าพันคอ, ถุงมือ, ถุงเท้าหลายคู่
รองเท้า: รองเท้าผ้าใบ/รองเท้าหุ้มส้นที่ใส่สบายสำหรับการเดินขึ้นและเดินบนภู
สิ่งจำเป็น: ไฟฉาย/แบตเตอรี่สำรอง (ข้างบนจะปิดไฟหลัง 22:00 น.), ยาสามัญประจำตัว (โดยเฉพาะยาแก้ปวดเมื่อย/คลายกล้ามเนื้อ), สเปรย์กันแมลง/ทาก (ช่วงปลายฝนต้นหนาว), ผ้าเช็ดตัว, อุปกรณ์อาบน้ำ
บริการลูกหาบ: หากมีสัมภาระมาก สามารถจ้างลูกหาบจากอุทยานฯ ได้
เวลาขึ้น/ลง: ต้องติดต่อซื้อค่าบริการบุคคลก่อนเวลาประมาณ 13:30 น. และจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้น-ลงเขาในเวลา 14:00 น. (โปรดตรวจสอบเวลากับอุทยานฯ อีกครั้งก่อนเดินทาง)
การหุงต้ม: หากนำอาหารขึ้นไปประกอบอาหาร ต้องจัดเตรียมเตาแก๊สขึ้นไปด้วยและหุงต้มในบริเวณที่อุทยานฯ จัดไว้ให้เท่านั้น (ห้ามก่อกองไฟ)
การเดินคนเดียว: อาจมีมาตรการด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ห้ามเดินคนเดียว ต้องไปเป็นกลุ่ม (ควรตรวจสอบมาตรการล่าสุด)
การรักษาสิ่งแวดล้อม: ห้ามทิ้งขยะ ไม่นำสิ่งของอันตรายขึ้นไป ห้ามส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ป่า
เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่า การผจญภัย และธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่มอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ "พิชิตภูกระดึงครั้งหนึ่งในชีวิต"
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะเปิดให้ท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี และจะปิดในช่วงฤดูฝน (1 มิถุนายน - 30 กันยายน) เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ
ช่วงที่น่าไปที่สุด (ยอดนิยม): ธันวาคม - มกราคม
เป็นช่วงฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็นที่สุดบนยอดภู
เป็นช่วงที่มีโอกาสได้เห็น ใบเมเปิ้ล (ก่วมแดง) เปลี่ยนเป็นสีแดง ร่วงหล่นตามน้ำตก
ช่วงปลายฝนต้นหนาว: ตุลาคม - พฤศจิกายน
เหมาะสำหรับคนชอบบรรยากาศชุ่มฉ่ำ ไอหมอกขาวๆ และน้ำตกจะมีปริมาณน้ำเยอะเป็นพิเศษ (แต่ต้องระวังทาก)