พระพุทธศาสนาสู่จีน
Автор: วัดศรีสัตตนาค
Загружено: 2018-07-30
Просмотров: 1585
                Описание:
                    การปฏิวัติวัฒนธรรมจีน ความเสื่อมและการกลับฟื้นคืนมาของพระพุทธศาสนา
(The Chinese Cultural Revolution and the Fall and Rise of Buddhism.)
การปฏิวัติวัฒนธรรมของประเทศจีน (The Chinese Cultural Revolution) เป็นขบวนการปฏิวัติทางสังคมการเมือง (Sociopolitical revolution) ซึ่งเกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2509-2519 โดยเหมาเจ๋อตุง ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้ริเริ่มขับเคลื่อน เป้าหมายคือเพื่อบังคับใช้ลัทธิคอมมิวนิสต์ในประเทศจีน โดยการมุ่งขจัดองค์ประกอบที่เป็นทุนนิยม ประเพณีศาสนา และวัฒนธรรม ให้หมดไปจากสังคมจีน เพื่อมุ่งไปสู่การปฏิรูปเป็นประเทศคอมมิวนิสต์อย่างเต็มรูปแบบ
ผลของการปฏิวัติวัฒนธรรมคือ โบราณสถานโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่แสดงถึงวัฒนธรรมของจีนมาตั้งแต่โบราณต้องถูกทำลายลงจนแทบหมดสิ้น เช่น โครงกระดูกมนุษย์โบราณ หลุมฝังศพ ป้ายวิญญาณบรรพบุรุษ หนังสือและตำรับตำรา เครื่องดนตรีโบราณ ศาสนสถาน พระราชวัง กำแพงเมืองจีน อนุสาวรีย์ของบุคคลที่ประกอบคุณงามความดี งานศิลปะต่างๆอันประมาณค่ามิได้ เป็นต้น เกิดความหวาดระแวงกันระหว่างคนในครอบครัว เพื่อนบ้าน และชุมชน เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าใครจะเป็นผู้แจ้งให้ทางการรู้เกี่ยวกับการละเมิดกฎการปฏิวัติวัฒนธรรม
ในส่วนของพระพุทธศาสนา วัดวาอารามนับแสนแห่ง รวมถึงงานพุทธศิลป์หลายล้านชิ้นถูกเผาและทุบทำลายลง ภิกษุ ภิกษุณีสงฆ์ สามเณร และแม่ชี ถูกบังคับจับสึกเพื่อการใช้แรงงานในระบบคอมมูน หลายหมื่นรูปต้องบาดเจ็บล้มตายลงจากการกวาดล้างครั้งใหญ่ และอีกหลายหมื่นรูปที่อพยพหนีตายเข้าสู่ธิเบต
ผลจากการปฏิวัติวัฒนธรรมในครั้งนั้น ทำให้ช่วง 42-52 ปีที่ผ่านมา การปกครองของจีนมีเสถียรภาพที่มั่นคง จนช่วงประมาณ 20-30 ปีที่ผ่านมานี้ ได้เกิดการปฏิรูปครั้งใหม่ตามนโยบายของประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิง ทำให้เศรษฐกิจจีนมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด และคนจีนร่ำรวยขึ้นอย่างทันตา จนถึงขนาดเกิดคำกล่าวว่า 
"ถ้าคุณไม่ได้มาเมืองจีนเพียงแค่ปีเดียว กลับมาใหม่คุณก็แทบจะจำสภาพบ้านเรือน และถนนหนทางไม่ได้อีกแล้ว"
คำพูดประโยคนี้ตอกย้ำถึงพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของประเทศจีนได้อย่างแท้จริง
แต่สิ่งที่ตรงข้ามกับความเจริญรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด คนจีนกลับพบว่าตนเองไม่มีความสุขในทางจิตวิญญาณเลย คนสูงอายุเป็นจำนวนมากไม่ได้รับการเหลียวแล และถูกลูกหลานทอดทิ้งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่เคยเป็นครอบครัวใหญ่ถูกเปลี่ยนมาเป็นแบบครอบครัวขยาย ทุกคนมุ่งแต่การหาเงินให้ได้มากที่สุด คนรุ่นใหม่สนุกสนานไปกับการใช้เงิน โดยไม่สนใจว่าใครจะเป็นยังไง
พรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยการนำของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เล็งเห็นถึงปัญหา และตระหนักถึงความท้าทายใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นเหล่านี้ จึงสั่งระดมสมองและศึกษาจนพบว่า การไม่มีศาสนาเลย(Non-Religion) ไม่ได้ทำให้ระดับจิตใจของประชากรในโลกตะวันตกต่ำลง แต่สำหรับประเทศจีนและคนจีนแล้ว การไม่มีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว กลับทำให้สังคมจีนต้องเจอกับปัญหาเยอะแยะมากมาย กลายเป็นสังคมที่ขาดความยับยั้งชั่งใจและขาดความเอื้ออาทร บทสรุปที่ได้จึงคือ ประเทศจีนและคนจีนไม่เหมาะกับการที่จะเป็นรัฐแบบไร้ศาสนาอีกต่อไป
ศาสนาต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสนาเก่าแก่ดั้งเดิมของจีนอย่างพระพุทธศาสนา ปรัชญาเต๋า และปรัชญาขงจื้อ(The Three Traditional Chinese Religions หรือ " ไตรศาสนภาคี") จึงถูกนำกลับมาศึกษาอีกครั้งเพื่อหาแก่นธรรมของคนยุคก่อนๆ แก่นธรรมที่เคยทำให้สังคมจีนอยู่กันมาอย่างร่มเย็นเป็นสุข เป็นธรรมชาติ มีวิถีชีวิตที่รู้จักการแบ่งปัน เอื้ออาทร เมตตาปราณี และดูแลซึ้งกันและกัน คอมมิวนิสต์จีนไม่ต้องการสังคมที่เป็นบัวแล้งน้ำอีกต่อไป เพราะได้เรียนรู้มาตลอด 52 ปีแล้วว่า แม้จะแสวงหาทรัพย์สินเงินทองมาได้มากมายมหาศาลเพียงใด แต่ชีวิตประกอบด้วยร่างกายและจิตใจ ร่างกายต้องการความสะดวกสบายทางด้านวัตถุต่างๆ ฉันใด จิตใจก็ต้องการความสงบสุขร่มเย็น ฉันนั้น
ปัจจุบัน พระพุทธศาสนาจึงได้รับการสนับสนุนและฟื้นฟูขนานใหญ่โดยรัฐบาลจีน ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ วัดและสำนักสงฆ์ที่เคยถูกทุบทำลายไปในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมได้รับการฟื้นฟูและบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ สถานะของพระพุทธศาสนาในประเทศจีนจึงถือว่ากลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง โดยได้รับการยอมรับและสนับสนุนมากกว่าศาสนาใดๆ ทั้งจากผู้นำของประเทศ พ่อค้าปัญญาชน รวมถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ของจีน
คำถามสุดท้ายคือ ทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ถึงไม่เลือกที่จะส่งเสริมศาสนาอื่นๆ อย่างศาสนาคริสต์หรือศาสนาอิสลาม ซึ่งหลายครั้งเอง กลับเลือกที่จะควบคุมและปราบปรามด้วยมาตรการและวิธีที่รุนแรงด้วยซ้ำ
เหตุผลหลักก็คือ เพราะสีจิ้นผิงมองว่า 2 ศาสนานี้เป็นศาสนาของคนต่างชาติ มีหลักความเชื่อที่นอกจากจะไม่ส่งเสริมวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนแล้ว ยังขัดแย้งกันอย่างชัดเจน ทั้งยังมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพและการปกครองของจีน                
                
Повторяем попытку...
 
                Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
- 
                                Информация по загрузке: