ycliper

Популярное

Музыка Кино и Анимация Автомобили Животные Спорт Путешествия Игры Юмор

Интересные видео

2025 Сериалы Трейлеры Новости Как сделать Видеоуроки Diy своими руками

Топ запросов

смотреть а4 schoolboy runaway турецкий сериал смотреть мультфильмы эдисон
Скачать

สนามเพลาะ : สมรภูมิสุดโหดแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1

Автор: เรื่องเล่าสาระดี

Загружено: 2022-04-01

Просмотров: 16946

Описание: ภาพลักษณ์ที่แยกกันแทบไม่ขาดเมื่อพูดถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 คือสนามเพลาะอันยาวเหยียดสุดสายตาทั่วยุโรป สภาพโคลนตมเปียกแฉะและกองทัพหนูวิ่งพล่านไปตามซอกหลืบคือสิ่งที่เหล่าทหารต้องเผชิญจนกว่าจะถูกสั่งให้ปีนขึ้นไปฝ่าดงกระสุนและระเบิดจากฝ่ายตรงข้าม และอาจไม่ได้กลับมาอีกเลย

สนามเพลาะมีต้นกำเนิดมายาวนาน ตั้งแต่สมัยจูเลียส ซีซาร์ ชาวโรมันขุดแนวสนามเพลาะเพื่อปิดล้อมชาวกอลจนยอมแพ้ ต่อมาในศตวรรษที่ 17 ชาวสเปนกับชาวดัชต์ขุดสนามเพลาะทำสงครามกันยื้ดเยื้อท่ามกลางโคลนเลนในเบลเยียมปัจจุบัน อาวุธที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้สงครามในศตวรรษที่ 19 มีการขุดสนามเพลาะกันอย่างแพร่หลายเพื่อหลบภัยจากภยันตราย ทั้งในสงครามไครเมีย สงครามกลางเมืองอเมริกัน ฯลฯ

ทันทีที่สงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้นในปี 1914 ทั้งฝ่ายมหาอำนาจกลาง (Central Power) และฝ่ายพันธมิตร (Entente) ต่างระดมกำลังขุดแนวสนามเพลาะเพื่อตรึงข้าศึก และสร้างแนวป้องกันถาวร การโจมตีแนวข้าศึกในช่วงแรกของสงครามมีลักษณะไม่ต่างจากการรบในศตวรรษที่ 19 เท่าไหร่นัก เหล่าทหารขุดสนามเพลาะขนาดตื้นเพื่อเตรียมรับมือ จากนั้นเข้าจู่โจมแนวของข้าศึกพร้อมกันจำนวนมาก ความสูญเสียและยืดเยื้อของสงครามทำให้ทหารจำเป็นต้องหลบภัยในสนามเพลาะที่สร้างอย่างถาวร อาวุธที่ร้ายแรงไม่ว่าจะปืนใหญ่ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ปืนกลที่สาดกระสุนได้ฉับไวทำให้หลุมหลบภัยถาวรเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้

เดือนมิถุนายน ปี 1916 ในวันแรกของการรบที่ซอมม์ (Somme) ฝรั่งเศส ฝ่ายอังกฤษระดมยิงปืนใหญ่ใส่ที่มั่นฝ่ายเยอรมันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หวังทำลายแนวรบ เมื่อทหารอังกฤษบุกเข้าโจมตีแนวรบเยอรมัน กลับพบว่าในสนามเพลาะฝ่ายเยอรมันยังเต็มไปด้วยทหารพร้อมอาวุธครบมือกำลังรอคอยอยู่ ผลคือทหารอังกฤษบาดเจ็บและล้มตายรวมกันราว 6 หมื่นคนภายในวันเดียว

สนามเพลาะเริ่มถูกขุดให้ลึกขึ้นและมีเครือข่ายซับซ้อนขึ้น มีห้องสำหรับนายทหาร มีเพิงสุขา มีที่นอนสำหรับทหารเรียงรายกันแออัด ในยามฝนตก สนามเพลาะกลายสภาพเป็นเหมือนคูที่เต็มไปด้วยโคลนเลนสูงท่วมขา ทำให้เหล่าทหารต้องเผชิญกับภาวะรองเท้ากัด เท้าเปื่อย เท้าเน่า เชื้อราในร่มผ้า ทหารผู้โชคร้ายไม่น้อยต้องตัดขาทิ้งเพราะโรคร้ายเหล่านี้ ในฤดูหนาว เหล่าทหารยังต้องทนกับหิมะที่กัดจนนิ้วมือแทบเปลี่ยนเป็นสีม่วง

สภาพความเป็นอยู่อันแออัดและสกปรกดึงดูดเหล่าปรสิตและสัตว์เข้ามารบกวนประหนึ่งข้าศึกที่ไม่ได้รับเชิญ ไม่ว่าจะหมัด เห็บ หนู แมลงวัน พวกหนูมักไปกระจุกตัวในตามกองเสบียงที่ตุนไว้ ย่องมากินเศษอาหารเหลือ หรือแม้แต่แทะซากศพในเขตปลอดคน ร้อนไปถึงพวกทหารต้องหาทางจำกัดพวกมันทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะไล่ยิง วางกับดัก วางระเบิดรังหนู ทหารหลายคนยังเปลี่ยนการฆ่าหนูเป็นกิจกรรมยามว่างเพื่อผ่อนคลายอีกด้วย

เห็บและหมัดแพร่ระบาดไปทั่วจนกล่าวได้ว่าทหารทุกคนในสนามเพลาะคือบ้านหลังใหญ่ของเหล่าเห็บหมัด พวกมันแทรกตัวไปตามเสื้อผ้า ถุงเท้า ขน และเส้นผมของทหารจนคันคะเยอไปแทบทั้งตัว

พื้นที่ตรงกลางระหว่างสนามเพลาะของทั้งสองฝ่ายถูกเรียกว่า ’เขตปลอดคน’ (No man’s land) เมื่อใดที่ทหารโจมตีแนวสนามเพลาะข้าศึก พวกเขาจะต้องข้ามเขตปลอดคนนี้เพื่อบุกไปถึงสนามเพลาะของอีกฝ่าย ส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยการถอยร่นกลับสนามเพลาะของตนเองตามเดิม ทิ้งให้คนตายตกค้างในบริเวณนี้ แน่นอนว่าพื้นที่ตรงนี้ย่อมเต็มไปด้วยหลุมระเบิด สิ่งกีดขวางอย่างรั้วลวดหนาม ของเสีย และซากศพเน่าเปื่อย

หลุมระเบิดในพื้นที่ปลอดคนเจิ่งนองไปด้วยน้ำขัง ผสมกับปัสสาวะ อุจจาระ และเศษซากมนุษย์หรืออวัยวะที่เน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ซากศพเหล่านี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวันชั้นเลิศ ปัญหาแมลงวันยิ่งเลวร้ายลงในช่วงฤดูร้อน ในการรบที่กัลลิโปลี (Gallipoli) ระหว่างฝ่ายพันธมิตรกับจักรวรรดิออตโตมัน ทหารจากกองทัพร่วมออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (ANZAC) สาธยายไว้ว่าฝูงแมลงวันมีมหาศาล เมื่อทหารคนใดหยิบอาหารออกมากิน ฝูงแมลงวันจะรุมกันตอมจนแทบมองไม่เห็นอาหาร แมลงวันเหล่านี้ยังเป็นพาหะของโรคอหิวาต์ที่แพร่ระบาดบ่อยครั้งในหมู่ทหาร

ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายต่างตรวจจับความเคลื่อนไหวของกันและกัน พลแม่นปืนคอยสอดส่องทหารศัตรูที่โผล่หัวขึ้นไปเหนือหลุมเพลาะแล้วลั่นไก ในยามค่ำคืน ต่างฝ่ายอาจส่งหน่วยลาดตระเวนหรือหน่วยจู่โจมเล็กๆ ไปป่วนแนวข้าศึก พวกทหารจึงต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา

ภาวะอันตึงเครียดและน่าหดหู่ในสนามเพลาะ เสียงของปืนเล็กสลับเสียงปืนใหญ่ที่แผดดังขึ้นทุกชั่วโมงได้ทำลายสภาพจิตใจของทหารจำนวนไม่น้อยจนสติแตก อาการเหล่านี้ถูกเรียกว่า Shell-shock (หรือรู้จักกันว่า PTSD ในปัจจุบัน) ทหารผู้น่าสงสารหลายคนถึงขั้นระเบิดอารมณ์ว่าจะไม่ทนอีกต่อไป ก่อนเดินเข้าหากระบอกปืนศัตรูเพื่อให้ตัวเองพ้นทุกข์เสียที

จอช บุคเคอร์ ทหารเยอรมันผู้เคยใช้ชีวิตในแนวรบด้านตะวันตก (Western Front) เล่าว่า ทหารวัยรุ่นนายหนึ่งทนกับสภาวะย่ำแย่สุดขีดในสนามเพลาะไม่ไหว ตัดสินใจปีนออกไปนอกสนามเพลาะพร้อมระเบิดมือ เขาระบายความในใจถึงสงครามให้เพื่อนทหารฟัง และขู่จะขว้างระเบิดใส่พวกเดียวกันหากมีใครห้าม จากนั้นจึงเดินไปหาฝั่งของอังกฤษ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนทหารที่ไม่อาจทำอะไรได้ สุดท้ายเขาไม่ได้กลับมาอีกเลย

สงครามนี้คือโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ การรบในสนามเพลาะเป็นภาพแห่งความทรงจำอันเลวร้ายของสงครามอันยืดเยื้อที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะลากยาวไปถึง 4 ปี มันคือสัญลักษณ์ของความสูญเสียเพื่อให้ได้มาถึงพื้นที่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร แม้ทหารหลายคนจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ผู้คนรอบตัวต่างสัมผัสได้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป

‘สงครามเพื่อยุติสงคราม’ ครั้งนี้ได้ทำลาย ‘ชีวิต’ ทั้งรูปธรรมและนามธรรมของทหารหลายสิบล้านที่ต้องออกรบเพียงเพราะความขัดแย้งของผู้นำไม่กี่คน.


เรื่อง:อันโตนิโอ โฉมชา
ภาพประกอบ:เพ็ญนภา บุปผาเจริญสุข

Не удается загрузить Youtube-плеер. Проверьте блокировку Youtube в вашей сети.
Повторяем попытку...
สนามเพลาะ : สมรภูมิสุดโหดแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1

Поделиться в:

Доступные форматы для скачивания:

Скачать видео

  • Информация по загрузке:

Скачать аудио

Похожие видео

© 2025 ycliper. Все права защищены.



  • Контакты
  • О нас
  • Политика конфиденциальности



Контакты для правообладателей: [email protected]