รู้อะไรไม่สู้รู้งี้ EP.2 : เริ่มต้นวางแผนลดภาษีอย่างไร
Автор: WEALTHCOME MONEY
Загружено: 2022-05-12
Просмотров: 49
Описание:
เริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษียังไง
เนื่องจากบุคคลที่มีรายได้ทุกคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือฟรีแลนซ์จำเป็นต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นประจำทุกปี
การนำรายได้ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง และโบนัสของปีที่แล้วมาใช้คาดการณ์รายได้ที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงในปีนี้ จากนั้นนำมาหักค่าลดหย่อนต่างๆ ที่สามารถใช้สิทธิได้ เพื่อหาเงินได้สุทธิที่จะนำไปคำนวณภาษีแบบขั้นบันได โดยทั่วไปมีสูตรการคำนวณภาษีขั้นพื้นฐาน 2 สูตรที่คุณควรรู้ ได้แก่
1. สูตรคำนวณหาเงินได้สุทธิ เงินได้สุทธิ = รายได้ (ต่อปี) - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
2. สูตรคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายจากเงินได้สุทธิ ภาษีที่ต้องจ่าย = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี
ค่าลดหย่อนภาษี ปี 2565 มีอะไรบ้าง
การวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อย่างไรบ้าง เมื่อรู้วิธีการคำนวณหาอัตราภาษีของปี 2565 ที่คาดการณ์ว่าจะต้องจ่ายในเบื้องต้นแล้ว เรามาดูกันต่อว่ากฎหมายได้เปิดช่องให้ผู้มีเงินได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทใดได้บ้าง
1. สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลและครอบครัว
-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ใช้สิทธิได้ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข
-ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท ต้องเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และคู่สมรสต้องไม่มีรายได้
-ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงให้กับสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทต่อการตั้งครรภ์หนึ่งครั้ง
-ค่าลดหย่อนบุตร คนละ 30,000 บาท
ในกรณีเป็นบุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
-ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา หักลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไข บิดามารดามีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30,000 บาท และอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีเงินได้*
-ค่าลดหย่อนอุปการะผู้พิการหรือทุพพลภาพ หักลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
-ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย ใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
-ค่าลดหย่อน “ช้อปดีมีคืน 2565” เป็นโครงการกระตุ้นกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศของภาครัฐ โดยให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2565 ด้วย
ผู้มีเงินได้สามารถนำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากการซื้อสินค้าหรือบริการที่ตรงตามเงื่อนไขของโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 มาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
2. สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทการออมและการลงทุน
-เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกินปีละ 9,000 บาท
-ค่าเบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์
กรณีผู้มีเงินได้ทำประกันชีวิตแบบทั่วไปให้ตนเองสามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกฉบับรวมทั้งประกันแบบสะสมทรัพย์มาใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
-ค่าเบี้ยประกันสุขภาพของตนเอง
ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและประกันแบบสะสมทรัพย์ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
-ค่าเบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพทั้งของบิดามารดาตนเองและบิดามารดาของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่รวมกันสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
-ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
-กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
-กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Funds: SSF) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
แนะนำกองทุนรวม RMF SSF ผลตอบแทนดี ลดหย่อนภาษีได้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ใช้ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
--กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท
-เงินลงทุนธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) อาจเป็นการลงทุนในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งหรือในฐานะนักลงทุนอิสระก็ได้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
3. สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทเงินบริจาค
-เงินบริจาคทั่วไป ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษีประเภทอื่นๆ แล้ว
-เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลของรัฐ ใช้ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินที่บริจาคจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้--จ่ายและค่าลดหย่อนภาษีประเภทอื่นๆ แล้ว
เงินบริจาคพรรคการเมือง ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
หากคุณสนใจอยากเริ่มต้นวางแผนทางการเงินและลดหย่อนภาษีอย่างมีคุณภาพ
สามารถติดต่อทีม PHILLIP INVESTERCENTER
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: