“สหายใหญ่” ฝังใจ!ขอไปเยี่ยมทหารผ่านศึก ก่อน!!ออกนโยบายกลาโหม9ข้อ คุมกห.-กองทัพ

Описание: ”บิ๊กอ้วน“เคลียร์ ปม
นั่ง คุม กลาโหม ยัน
ถือเป็นเกียรติสูงสุด
กราบเรียน ผบ.เหล่าทัพ ว่า ไม่ได้มาสร้างความแตกแยก
หรือจะทำให้ไม่สบายใจ อยาก มาเพื่อพัฒนากองทัพ
ติดใจ อยากเจอ ทหารผ่านศึก
ขอตรวจเยี่ยม 19 กย นี้
ก่อนหน่วยอื่น
มอบ นโยบาย 9 ข้อ
กลาโหม แก่ ผบ.เหล่าทัพ-นขต.กห.
ยัน ยึดยุทธศาสตร์ชาติ
ลั่น พิทักษ์รักษา เทิดทูนสถาบันกษัตริย์ เพื่อยืนยันถึง
ความจงรักภักดีของตนเอง ต่อสถาบันฯ
พร้อม ทำให้ประชาชนยอมรับ กองทัพ
ชี้ เกณฑ์ทหารยังจำเป็น
ตั้งเป้า ใช้ระบบทหารสมัครใจ


.

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวเปิดใจหลังเขาเข้ากระทรวงกลาโหมอย่างเป็นทางการ ว่า ได้มีการพูดคุยกับสำนักง่นปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้นำเหล่าทัพ รู้สึกเป็นเกียรติ และถือเป็นเกียรติยศอย่างสูงสุดของตนที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับเหล่าทัพ ถือเป็นเป็นกระทรวงซึ่งมีความสำคัญในการดูแลความมั่นคงของประเทศ ซึ่งตนได้บอกกับผู้นำเหล่าทัพว่าไม่ได้คิดว่าจะต้องมาทำสิ่งใดที่สร้างความไม่สบายใจ หรือสร้างความแตกแยกในกองทัพ แต่ตนอยากมาร่วมร่วมและมีส่วนในการพัฒนากองทัพให้เข้มแข็งและทันสมัย เท่าทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงได้

ทั้งนี้ จากการรับฟังภารกิจของกองทัพ สิ่งต่างๆที่ตนได้คิดมา เห็นว่าจริงๆกองทัพทำอยู่แล้วเกือบทุก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพกองทัพด้วยเทคโนโลยี การลดกำลังพลทุกระดับ แต่ทุกอย่างไม่ได้เสร็จสิ้นภายในคืนเดียว ต้องมีระยะที่เปลี่ยนผ่าน ซึ่งตนได้กำหนดนโยบายไว้ว่า จะทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งตนที่จะนำมาปฏิบัติร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อให้สอดรับกับสิ่งที่เป็นอยู่และแก้ปัญหาได้

ส่วนการพัฒนาประสิทธิภาพกองทัพ ได้เห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีในระดับที่สูงขึ้น เพราะโลกทุกวันนี้ใช้เทคโนโลยีการต่อสู้ กองทัพก็จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยปกป้องดูแลอธิปไตยของชาติ

ส่วนเรื่องกำลังพล คิดว่าการสร้างกำลังสำรอง หรือการเกณฑ์ทหาร ตนเห็นด้วยว่ากองทัพก็รู้สึกเช่นกัน จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่านและปรับให้มีความเหมาะสม กับความต้องการของประเทศ ซึ่งตรงนี้ตนก็ได้ศึกษาระบบของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่สามารถทำได้ประสบความสำเร็จ ก็จะให้เหล่าทัพช่วยดูให้สอดรับกัน ซึ่งเชื่อว่านโยบายนี้จะสามารถทำได้เพราะไม่มีอะไรขัดแย้งกัน เพียงแต่จัดการให้เหมาะสมกับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น

นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า หลังรับตำแหน่งยังขอไม่ไปเยี่ยมเหล่าทัพ แต่จะไปเยี่ยมทหารผ่านศึก ที่ประสบภัยจากการสู้รบในการปกป้องประเทศก่อน เช่นองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก โรงพยาบาลทหารผ่านศึก

ซึ่งอะไรก็ตามที่จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานนี้ ตนจะผลักดันเต็มที่ จากนั้นค่อยไปเยี่ยมเหล่าทัพ ไปเยี่ยมทหารช่างของเหล่าทัพต่างๆรวมถึงหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย โดยอยากเห็นศักยภาพการทำงานและแผนงานที่ชัดในการช่วยเหลือประชาชน


กระทรวงกลาโหม เผยแพร่ นโยบายกลาโหม ของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่มอบนโยบายให้กับ หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม (นขต.กห. ) ในวันนึ้ 16ก.ย.2567 ที่ ห้องภาณุรังษี ในศาลาว่าการกลาโหม

1.จะยึดถือยุทธศาสตร์ชาติและคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว เมื่อ 12ก.ย.2567เป็นแนวทางในการทำงาน

2.ในห้วงที่ผ่านมา กห. ได้ดำเนินการตามภารกิจหน้าที่อย่างเต็มความสามารถอยู่แล้ว แต่อาจมีข้อจำกัดในการบริหารจัดการและการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งในฐานะ รมว.กห. จะดำเนินการผลักดัน ขับเคลื่อน และอำนวยความสะดวก เพื่อให้การดำเนินการทั้งหลายเหล่านั้นประสบผลสำเร็จต่อไป

3.จะดำรงการพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นภารกิจหลักสำคัญของ กห. แล้ว ยังเพื่อยืนยันถึงความจงรักภักดีของ รมว.กห. ต่อสถาบันฯ

4.จะมุ่งพัฒนากองทัพให้มีความทันสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในระบบปฏิบัติการรบในทุกมิติ เพื่อให้มีขีดความสามารถเพียงพอในการพิทักษ์เอกราชและอธิปไตยของชาติ ในท่ามกลางสภาวะการแข็งด้านเทคโนโลยีการทหารของชาติต่างๆ

5.จะมุ่งสร้างการยอมรับ กองทัพให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่ากองทัพเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของประเทศ และสามารถเป็นที่พึ่งได้

6.ระบบการเกณฑ์ทหารยังคงมีความจำเป็นกับประเทศไทยในยุคปัจจุบัน การจะยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารเพื่อไปสู่ระบบทหารสมัครใจ จำเป็นต้องใช้เวลา และต้องสร้างแรงจูงใจให้รู้สึกว่าการเข้ามาเป็นทหารเป็นการสร้างโอกาสในชีวิตให้เขาเหล่านั้น

7. การพัฒนาระบบกำลังสำรองถือว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น เพราะนอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันประเทศแล้ว ยังจะเป็นช่องทางในการนำประชาชนให้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ระบบของกองทัพ เพื่อให้มีความเข้าใจและสร้างทัศนคติที่ดีให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน

8.กองทัพยังคงเป็นองค์กรที่สามารถเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้เสมอ โดยเฉพาะในยามบ้านเมืองประสบภัยพิบัติ เนื่องจากมีทั้งความเร็วและความสมเหตุสมผลในการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น หลังจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือคลี่คลายแล้ว ให้กองทัพโดยเฉพาะหน่วย SEAL ของ ทร. เคลื่อนย้ายเข้าเตรียมการให้ความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ จ.หนองคาย รวมทั้งให้ นทพ. และ ทหารช่าง เหล่าทัพ เตรียมให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูบ้านเรือนของประชาชนที่ประสบภัยต่อไป

9.การดูแลสิทธิกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงทหารผ่านศึก ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ กห. ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะสร้างหลักประกันและความอุ่นใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า ว่าจะได้รับการดูแลในส่วนหลัง และจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ ดังนั้น ในการตรวจเยี่ยมหน่วย นขต.กห. จึงประสงค์จะขอเริ่มที่ อผศ. เป็นหน่วยแรก ก่อนที่จะไปตรวจเยี่ยมเหล่าทัพในลำดับถัดไป