ข่าว ผู้การฯขอนแก่น สั่งย้าย!รอง ผกก หัวร้อน ด่าหยาบ ปรี่จะทำร้ายหญิงตั้งครรภ์ (15/9/2568)

Описание: คืบหน้า ผู้การตำรวจสั่งย้าย รอง ผกก.หัวร้อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย กรณีโลกโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปขณะที่ นายตำรวจระดับ รอง ผกก.สภ.แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ด่าทอ ข่มขู่ จะเข้าไปทำร้ายหญิงตั้งครรภ์ 5 เดือน ขณะนั่งอยู่หน้าบ้านกับครอบครัว พบเป็นญาติกันอาจเกิดความเครียดเข้าใจว่าหญิงตั้งครรภ์ยิ้มเยาะเย้ยใส่ ล่าสุดเข้าขอโทษครอบครัวหญิงตั้งครรภ์แล้ว

จากกรณีโลกโซเชียลมีเดียได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่หญิงตั้งครรภ์รายหนึ่ง อายุ 32 ปี ในอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ถูกตำรวจนายหนึ่งระดับ พ.ต.ท. ตำแหน่งรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ตรงปรี่เข้ามาด่าทอและดูเหมือนทำท่าเหมือนจะทำร้ายร่างกาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหญิงรายดังกล่าวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ มัญจาคีรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ย.2568 ไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ,พ.ต.อ.ธนวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ,พ.ต.อ.ธีร์ธัชช์ พงศ์สุวรรณ์ ผกก.สภ.มัญจาคีรี ,พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ไพคำนาม ผู้กำกับ ฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนทีมโฆษก ภ.จว.ขอนแก่น และน.ส.มาริษา สุวอ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 หมู่ 5 ตำบลท่าศาลา อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น หญิงตั้งครรภ์ 5 เดือน ในคลิป พร้อมครอบครัว ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งก่อนที่จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวนั้น รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรชายในคลิป ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจพร้อมทั้งขอโทษน.ส.มาริษา และไหว้ขอโทษแม่ของน.ส.มาริษา ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสาว โดยทั้งหมดนั้นเป็นเครือญาติกัน

หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไป จึงได้เรียกตัวพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ เข้ามาชี้แจง ซึ่งได้ชี้แจงว่าเข้าใจผิดคิดว่าถูกเยาะเย้ย และได้พยายามติดต่อหญิงตั้งครรภ์พร้อมแม่ซึ่งเป็นน้าสาวตัวเอง เพื่อที่จะชี้แจงและขอโทษ ในวันนี้จึงได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาปรับความเข้าใจ จนเป็นที่เข้าใจดีต่อกันแล้ว ซึ่งไม่มีการติดใจแต่อย่างใด จบไปด้วยดี แต่ในส่วนของทางตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น มองว่า พฤติกรรมที่ปรากฏในคลิปของพ.ต.ท. วรวิทย์ฯนั้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจึงได้มีการสั่ง ให้พ.ต.ท. วรวิทย์ฯ มาประจำที่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนทางวินัย หากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทางวินัยต่อไปโดยเร็วที่สุด

พล.ต.ต. อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ชี้แจงกรณีดังกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ภายหลังจากมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวในสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นพบว่าชายในคลิปคือ พ.ต.ท.วรวิทย์ ธรรมสุจริต รองผู้กำกับสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และมีความเกี่ยวข้องกับหญิงตั้งครรภ์โดยทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ซึ่งวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.วรวิทย์ฯ ได้ไปขนของที่บ้านคุณยายของทั้งคู่ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของหญิงตั้งครรภ์ ขณะที่พ.ต.ท.วรวิทย์ฯ ขนของได้เห็นกลุ่มของหญิงตั้งครรภ์นั่งอยู่หน้าบ้าน จึงเกิดความเข้าใจผิด คิดว่ายิ้มเยาะเย้ยตัวเอง และพูดบ่นถึงตัวเอง จึงเกิดความโมโหเข้าไปต่อว่า โดยมีแม่ของหญิงตั้งครรภ์ เข้ามาห้ามและญาติของพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ เข้ามาห้ามก่อนที่จะออกจากที่เกิดเหตุไป ทางหญิงตั้งครรภ์ได้เกิดความไม่สบายใจ และได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.มัญจาคีรี เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ด้านนางสาว มาริษา หญิงตั้งครรภ์ 5 เดือนในคลิป กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนเองได้แจ้งความไว้ที่สภ. มัญจาคีรี โดยทางพ.ต.ท.วรวิทย์ฯได้ติดต่อมาหลังจากที่ตนเองแจ้งความเพื่อขอโทษ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ตนเองนั่งอยู่ที่หน้าบ้านกับเพื่อนและแม่ ตัวพ.ต.ท.วรวิทย์ ฯได้มาขนของตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ตนเองไม่อยู่ ต่อมาในวันที่ 12 พ.ต.ท.วรวิทย์ฯ ได้มาขนของซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และของหนัก ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้มีการมองหรือพูดคุยกับพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ จู่ๆก็ถูกพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ ตะโกนด่าเข้ามาด้วยคำหยาบคาย ว่า…เป็นอะไร….ตามคลิปวงจรปิด ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าไม่ได้พูดอะไร หรือคุยอะไรด้วย แต่พ.ต.ท. วรวิทย์เดินปรี่ เข้ามาเหมือน จะทำร้าย จังหวะนั้นแม่บอกกับพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ ว่าน้อง ท้องอยู่ 5 เดือน ทำให้พ.ต.ท. วรวิทย์ฯหยุดชะงัก แม่จึงถามว่าเป็นอะไร ทำให้พ.ต.ท.วรวิทย์ฯ เดินเข้าไปจะทำร้ายแม่แทน ซึ่งมีคนมาห้ามพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ เอาไว้ ทำให้ยังไม่ได้รับอันตรายใดๆเกิดขึ้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากระทบกระทั่ง หรือเคยมีปากเสียงกันแม้แต่ครั้งเดียว คาดว่าสาเหตุจะเกิดจากความเครียด และความเหนื่อยล้าที่พันตำรวจโท วรวิทย์มีสะสม เพราะเท่าที่ถามพ.ต.ท.วรวิทย์ ว่าวันเกิดเหตุทำไมจึงทำเช่นนั้น ทางพ.ต.ท.วรวิทย์ บอกว่าวันนั้นเหนื่อย เครียดสะสม และคิดว่าตนเองยิ้มเยาะเย้ย

น.ส.มาริษา บอกอีกว่า ตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับทางพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ เพื่อปรับความเข้าใจ ซึ่งตนเองก็สามารถให้อภัยได้ ทุกคนทำผิดก็สามารถได้รับโอกาสที่จะปรับปรุงแก้ไข เพราะทุกคนสามารถทำผิดได้เหมือนกันหมด และตนเองยังได้ถามกับพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ ว่าพฤติกรรมแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพราะตนเองทั้งหวาดกลัวทั้งหวาดระแวง จึงต้องเข้าแจ้งความและพาแม่ มาหลบอยู่ในตัวเมือง ซึ่งทางพ.ต.ท.วรวิทย์ รับปากว่าจะปรับปรุงตัวจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก และพฤติกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นไม่สมควรอย่างยิ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองหรือประชาชนคนอื่นเพราะพ.ต.ท.วรวิทย์ฯ เป็นถึงตำรวจควรจะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนทุกคน