วันที่ความหวังกลายเป็นความจริง: เสียงจากตัวแทนพี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองกว่า 46 กลุ่มชาติพันธุ์

Описание: เสียงจากตัวแทนพี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองกว่า 46 กลุ่มชาติพันธุ์ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ... ด้วยเสียงข้างมาก 421 เสียง
ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นประเทศที่ 4 ในอาเซียนที่มีกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง

-วันที่ความหวังกลายเป็นความจริง วันที่เสียงเล็ก ๆ ได้รับการต้อนรับสู่หัวใจของประเทศ -
“รู้สึกดีใจมากครับ ที่รัฐบาลไทยและผู้หลักผู้ใหญ่ได้ผลักดันให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านและได้รับความเห็นชอบเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568”
— อาเกอะ บอแช (ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์อ่าข่า)
“นี่คือสิทธิประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องทุกชาติพันธุ์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
— พรทิพย์ รุ่งเรือง (ตัวแทนเยาวชนชาติพันธุ์)
“เป็นเรื่องของการต่อสู้ในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งแต่ก่อนเราเรียกว่าชนชนเผ่า สิ่งที่เราได้ก็คือพระราชทานที่ออกมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหรือสิ่งที่ได้น่ะมันเป็นสิ่งที่เราได้ต่อสู้มามาก เป็นระยะเวลาเกือบ 15 ปี เป็นสิ่งที่สำเร็จ”
— นิพนธ์ วงศ์กาฬสินธุ์ (ผู้อาวุโสสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย)
“กฎหมายนี้จะทำให้พี่น้องเราอยู่ได้ในพื้นที่ของตัวเอง สังคมจะเห็นตัวตนของเรา และเราจะมีส่วนร่วมดูแลทรัพยากรของส่วนรวม”
— จรัสศรี จันทร์อ้าย (รองประธานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม)

คำขอบคุณจากหัวใจ -
“ขอบคุณองค์กรและเครือข่ายที่ร่วมผลักดัน ขอบคุณพี่น้องชนเผ่าที่ไม่ยอมแพ้ ขอบคุณทุกหัวใจที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดเส้นทาง”
— ชัยยุทธ บุญบุ้ย (เลขาธิการชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้)
“ก็ขอขอบคุณพี่น้องชนเผ่าเองอย่างแรกนะคะ ที่เรารวมตัวกันแล้วก็พยายามที่จะมีความเชื่อมั่นว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านไปได้รวมถึงศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร สภาผู้แทนราษฎรหรือว่าทาง สว.ต่างๆ ผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปด้วยด้วยดีค่ะ”
— กมลพรรณ์ แซ่ลี้ (ตัวแทนจาก AIPP)
“ท้ายที่สุดนี้เนี่ยอยากจะขอบคุณเครือข่ายชาติพันธุ์ทั่วทุกประเทศ สมาคม IMPECT ขอบคุณภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่เราร่วมสู้กันมาสิบกว่าปี ในเส้นทางที่ที่กว่าจะมาถึงวันเนี้ย เจ็บตัวกันก็ไม่ใช่น้อย ล้มหายตายจากกันไป สิ่งเหล่านี้เราก็จะบอกกับคนที่ทั้งมีชีวิตอยู่ที่ร่วมสู้กันมาร่วมรบกันมาเราสำเร็จแล้ว”
— เศกสรรค์ สุมนตรี (ประธานเครือข่ายชาติพันธุ์ภาคคลางตะวันตกตะวับออก)

สิ่งที่อยากบอกกับสังคมไทย -
“ต่อไป เราจะขับเคลื่อนวิถีชีวิตชาติพันธุ์ให้กลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจ เป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่แท้จริง”
— กันตพงศ์ จองนัน (ประธานเครือข่ายปะโอ)
“เราต้องทำกฎหมายลูกให้เกิดขึ้น ต้องประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนเข้าใจและใช้สิทธิตามกฎหมาย”
— หน่อแอริ ทุ่งเมืองทอง (นายกสมาคมผู้หญิงชนเผ่าเพื่อการพัฒนา)
“แม้กฎหมายผ่านแล้ว แต่การทำงานเพิ่งเริ่มต้น เราต้องลงพื้นที่ ยกระดับมาตรฐานชุมชนให้สอดคล้องกับกฎหมาย”
— ไมตรี จงไกรจักร์ (ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไท)
“วันนี้ เราคือคนไทยที่สมบูรณ์มีกฎหมายรองรับ และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
— เนาวนิตย์ แจ่มพิศ (ผู้อาวุโสสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย)

การผ่านร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ...
คือชัยชนะของความหวัง ความพยายาม และความสามัคคีของพี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองกว่า 46 กลุ่มชาติพันธุ์
เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยยอมรับและปกป้องความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการ

นี่ไม่ใช่เพียงจุดสิ้นสุดของการต่อสู้กว่า 18 ปี
แต่คือจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกัน
เพื่อให้กฎหมายนี้มีชีวิตในชุมชนทุกแห่ง
สร้างคุณค่า สร้างโอกาส และสร้างสังคมที่ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

#IMN #คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ #สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย #ชนเผ่าพื้นเมือง #กฎหมายชาติพันธุ์ #พื้นที่คุ้มครองชาติพันธุ์ #ชาติพันธุ์ก็คือคน #คนเท่ากัน #ชุมนุม #indigenouspeople #พรบคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ #คุ้มครองสิทธิ #ส่งเสริมวิถีชีวิต #สร้างความเสมอภาค #สิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ #ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ #พรบชาติพันธุ์ #พลังชาติพันธุ์ #ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร