เคยเป็นอีสุกอีใส ? คุณคือกลุ่มเสี่ยง “โรคงูสวัด” โดยไม่รู้ตัว | โรงพยาบาลเจ้าพระยา

Описание: โรคงูสวัด (Shingles) เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella-Zoster Virus) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส หลังจากหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสจะยังคงซ่อนตัวอยู่ในปมประสาทของร่างกาย และเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง เชื้อไวรัสนี้สามารถกำเริบขึ้นมาใหม่และก่อให้เกิดโรคงูสวัดได้

อาการของโรคงูสวัดเป็นอย่างไร? อาการเริ่มต้นของโรคงูสวัดมักจะไม่มีผื่นขึ้น แต่ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนังซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย หลังจากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มมีผื่นแดงขึ้นและกลายเป็นตุ่มน้ำใสเรียงตัวกันเป็นแนวยาวตามเส้นประสาทที่เชื้อไวรัสแฝงตัวอยู่ บริเวณที่พบบ่อยคือลำตัวและใบหน้า ตุ่มน้ำเหล่านี้จะคงอยู่ประมาณ 7-10 วันก่อนจะตกสะเก็ดและหายไปในที่สุด อาการร่วมอื่นๆ ที่อาจพบได้คือ มีไข้ ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย

ภาวะแทรกซ้อนและความอันตรายของโรคงูสวัด แม้ว่าโรคงูสวัดจะสามารถหายได้เอง แต่ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดคือ อาการปวดปลายประสาท (Post-Herpetic Neuralgia - PHN) ซึ่งเป็นอาการปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรงบริเวณผิวหนังที่เคยเป็นผื่น แม้ว่าผื่นจะหายดีแล้วก็ตาม อาการปวดนี้อาจคงอยู่นานเป็นเดือนหรือเป็นปี ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก

นอกจากนี้ หากงูสวัดขึ้นบริเวณใบหน้า อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ดวงตา เช่น กระจกตาอักเสบ หรืออาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ รวมถึงอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนังได้เช่นกัน
แนวทางการรักษาและป้องกัน การรักษาโรคงูสวัดมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสเพื่อลดความรุนแรงและระยะเวลาของโรค ซึ่งจะได้ผลดีที่สุดเมื่อเริ่มยาภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังเกิดอาการ ควบคู่ไปกับการใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด

สำหรับการป้องกัน วิธีที่มีประสิทธิภาพคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ซึ่งแนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
สรุป โรคงูสวัดเป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวดและอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการของโรคงูสวัด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการดูแลที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

00:00 โรคงูสวัด
00:19 สาเหตุและลักษณะของโรค
00:39 อาการของโรค
01:26 การติดต่อ
04:04 ภาวะแทรกซ้อนและอันตราย
06:32 การป้องกัน
07:10 คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
07:42 การรักษา

-----------------------------------------------
ติดต่อแผนก Call Center
ทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.
📞 024335666
☎ 024338222
📲Line OA : @chaophya

www.chaophya.com
www.tiktok.com/@chaophyahospital
www.facebook.com/hospitalchaophya
www.instagram.com/chaophyahospital
/ thechaophyahospital

#โรงพยาบาลเจ้าพระยา
#ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง24ชั่วโมง
#ศูนย์แพทย์เฉพาะทางเที่ยงคืน
📞 024341111
☎ 028847000
"สุขภาพของคุณมั่นใจได้ไม่ต้องรอถึงเช้า"
#โรคงูสวัด #งูสวัด #Shingles #อาการงูสวัด #วัคซีนงูสวัด #โรงพยาบาลเจ้าพระยา