The Silk Road Part 12 อุทยานแห่งชาติ คานาส
Автор: ทนง ตันชวลิต
Загружено: 2019-08-16
Просмотров: 15
Описание:
The Silk Road
Part 12 อุทยานแห่งชาติ คานาส
๒๖ กันยายน ๒๕๕๕
เจ็ดโมงเช้าตื่นขึ้น มาตามนัดกับสุริยะเทพ อาบแสงแรกของตาวัน ถือเป็นการอำนวยพรของสุริยะเทพ กึ่งนั่งกึ่งนอนตะแคงถ่ายรูปต่อบนรถ ด้วยความคิดแห่งตน ใช้สมองกล บันทึกการเดินทางของผม
คิดถึงเรื่อง ดอกไม้สำหรับอัลเจอน่อน เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ เรื่องสั้นๆ แต่ติดอยู่ในความทรงจำของผม ตราบจนทุกวันนี้ ที่จริงมันเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่เขียนให้เด็กอ่านทั่วๆไป(ตอนผมอ่านมัน ผมยังเด็กอยู่) ไม่ซับซ้อน แต่ทำไมมันติดอยู่ในความทรงจำของผมอย่างยาวยาน ผมก็ไม่รู้เหตุผล เป็นเรื่องการทดลองทางวิทยาศาสตร์ มีนักวิทยาศาสตร์ กลุ่มหนึ่ง คิดยาที่ทำให้สมองพัฒนาถึงขีดสูงสุด จึงนำไปทดลองกับหนู ชื่อ อัลเจอน่อน มันก็ได้ผลอย่างดี อัลเจอน่อนฉลาดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงจุดสูงสุด นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ก็เฝ้าดู อัลเจอน่อน จนแน่ใจว่า ไม่มีผลข้างเคียงที่จะใช้ยานี้ เมื่อมีความแน่ใจ พวกเขาจึงคิดทดลองกับคน เขาเลือกคนปัญญาอ่อนคนหนึ่ง ผมจำชื่อเขาไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร แต่ชื่อฝรั่ง เดาไม่ยากหรอกครับ เพราะมีไม่กี่ชื่อ ผมว่าการวิวัฒนาการในเรื่องภาษาของเราสุดยอดมากกว่า มีชื่อร้อยแปดพันชนิด ผมสมมุติว่า เขาชื่อจอห์น ผลการทดลองปรากฏว่า จอห์น ฉลาดขึ้น จริงๆ ฉลาดขึ้นทุกวัน ภายในปีเดียว จอห์น ฉลาด ยิ่งกว่าไอน์สไตน์รวมกันสามคน เขาคิดค้นอะไรได้มากมาย และบันทึกไว้ให้โลกได้รับรู้ แล้วต่อมา อัลเจอน่อนก็เริ่มมีอาการเคลื่อนไหวช้าลง เซื่องซึม ฉลาดน้อยลง สุดท้าย ตาย จอห์นเริ่มวิตก และคิดหาทางแก้ไข แต่ไม่สำเร็จ สุดท้าย ความ คิด ของ เขา ก็ ช้า ลง ก่อน ที่ความทรงจำของเขาจะหมดไป เขานำดอกไม้ไปวางที่หลุมศพของ อัลเจอน่อน เพราะอีกไม่นาน เขาคงจำมันซึ่งเป็นเพื่อนเล่นของเขาไม่ได้ อาจจำไม่ได้แม้แต่ตัวเขาเองว่า เป็นใคร มาจากไหน สุดท้ายคงตายไปก่อนวัยอันควร
ผมก็เช่นกัน ก่อนที่สมองของผมมันจะฝ่อไป ผมตั้งใจว่า จะบันทึกเรื่องราวของผมไว้ แม้ว่า มันจะไม่มีประโยชน์อะไรกับใคร แต่มันเป็นความสุขของผมที่ได้ทำมัน ทุกครั้งที่กลับมาอ่าน มาดูรูปที่ผมถ่ายไว้ ผมมักจะมีความสุขกับมันเสมอ เหมือนผมหลุดเขามาในโลกภายในของตัวผมเอง ช่วงเวลาขณะนั้น ผมทำอะไรอยู่ และคิดอย่างไร
คิดถึงดอกไม้ สำหรับ อัลเจอน่อน
ประมาณ ๑๐.๐๐ ถึง เมืองเป่ยถุน ติดต่อเช่ารถไปคานาส หรือคานาสือ ได้รถตู้ใหญ่ ๑๕๐๐ หยวน แต่เมื่อออกเดินทางไปแล้วก็พบว่า รถคันที่เราจ้างมาไม่สามารถข้ามเขตุไปคานาสได้ ต้องมาเปลี่ยนเป็นรถของเพื่อนเขาที่เมืองเมืองหนึ่งกลางทาง รถเล็กลง แต่ก็นั่งกันได้ และคนขับค่อนข้างหนุ่มและนิสัยใช้ได้
๑๓.๐๐ น แวะซื้อข้าวของเข้าไปกินใน คานาส เพราะข้างในจะแพง บางคนซื้อเสื้อกันหนาว ผมซื้อ มาม่า กับข้าวโพดต้ม
๑๕.๑๕ ถึงหน้าอุทยานคานาส ต้องนั่งรถอุทยานเข้าไปอีกต่อ ส่วนคนขับรถเรานัดเขาให้มารอรับตอนเที่ยงของวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕
๑๖.๑๔ ถึงด้านหน้า ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อหาที่พัก ซึ่งคงมีหลากหลาย เราไปพักที่หมู่บ้านเล็กๆไม่ไกลจากนี่เท่าไร เป็นแบบชาวบ้านสร้างไว้บริการนักท่องเที่ยว มีแต่ที่นอน และน้ำไว้ต้มมาม่า ล้างหน้าแปรงฟัน ไม่มีน้ำให้อาบ(ถึงมีก็คงมีบางคนอาจไม่อาบ เพราะอากาศ หนาวมาก) ไม่มีห้องส้วม ใครจะปลดปล่อยทุกข์ ก็หาที่เหมาะๆ กลางทุ่ง ในร่องน้ำ ริมลำธาร ตามสบายของแต่ละคน
เก็บของเสร็จ ออกมาที่ศูนย์เพื่อไปเที่ยว ศาลาชมปลา(กวานหยิวไถ) ประมาณ หนึ่งทุ่ม ก็ถูกกวาดต้อนให้ลงจาก ศาลาชมปลา ผมมองขึ้นท้องฟ้าซึ่งแสงแดดยังแผดจ้า แต่อีกทิศ พระจันทร์ ขึ้นแล้ว อย่างที่ผมบอก ผมชอบทั้งตาวันและจันทรา ผมเก็บมาฝากหลายรูป
๒๐.๔๖ ถ่าย รูปสุดท้าย เก็บจันทร์ในหมู่บ้าน
อากาศหนาว ปกติผมไม่ชอบนอนคลุมโปง แต่วันนี้ มันต้องคลุม โผล่แต่ปลายจมูกออกมา เหมือนสูดก้อนน้ำแข็งเข้าปอด นอนไม่ค่อยหลับ เย็นตั้งแต่ปอดกระจายไปจนถึงปลายประสาททุกเส้น
ทนง
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ (๑๑.๑๕)
ตีนบันทึก
๑ รูปของผม มันเป็นการบันทึกการเดินทาง ผ่านใจ สู่ก้อนสมองในกะโหลก ทะลุผ่านรูม่านตา ผ่านสมองของเครื่องจักรกลที่เรียกว่า กล้อง มันเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของผม แม้มันจะไม่สวยงามในบางภาพ เพราะบางครั้งต้องถ่ายผ่านกระจกในรถ เกิดเงาสะท้อนอันไม่พึงประสงค์ แต่ทุกภาพ มันบ่งบอกถึงการเดินทางว่า เรา เห็นอะไร ผ่านอะไร เมื่อไร และ คิดอะไร ในเวลานั้น ถ้าพวกคุณทำใจอดทนที่จะดูมันอย่างช้าๆ คุณจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางมาพร้อมผม เหมือนคุณมานั่งอยู่ในใจผม มองผ่านออกไปข้างนอก นั่นคือ หน้าที่ที่ผมอยากให้มันทำ รูปของผม
นงชลิต
ปรับปรุงใหม่ 16/8/2562/10.34-16.45
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: