9 มรดกแห่งพระอัจฉริยภาพ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อประชาชนชาวไทย
Автор: ชุดสันติสุขที่403
Загружено: 2025-10-11
Просмотров: 8
Описание:
9 มรดกแห่งพระอัจฉริยภาพ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อประชาชนชาวไทย
1. ฝนหลวง
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริเรื่องฝนหลวงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2498 ครั้งนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทางภาคอีสาน ทรงแหงนดูท้องฟ้าพบเมฆจำนวนมาก แต่พัดผ่านไปไม่ตกลงมาเป็นฝน จึงมีพระราชดำริเรื่องวิธีแก้ไขความแห้งแล้งในท้องถิ่นทุรกันดารว่า จะต้องหาวิธีทำให้เมฆตกลงมาเป็นฝน โดยในระยะเริ่มต้นฝนหลวงรู้จักในชื่อว่า ฝนเทียม นับเป็นวิชาการใหม่ซึ่งแม้ในต่างประเทศก็ยังมีข้อมูลน้อย
หลังจากการทดลองทำฝนเทียมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประสบทั้งอุปสรรคและความล้มเหลว ก็สามารถทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่เป้าหมายในเวลาที่ต้องการ โดยกรรมวิธีการทำฝนหลวงโดยทั่วไปมีสามขั้นตอน คือ ก่อกวน เลี้ยงให้อ้วน และ โจมตี เรียกว่าการโจมตีแบบ Sandwich ซึ่งประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2516 ต่อมาในปี 2542 เกิดวิกฤตภัยแล้งรุนแรง พระองค์ พระราชทานเทคนิคการทำฝนหลวงแบบ Super Sandwich ที่พัฒนาประสิทธิภาพการทำฝนเทียมให้สูงขึ้นไปอีก พร้อมกับ “ตำราฝนหลวงพระราชทาน” ซึ่งสรุปเป็นแผนภาพการ์ตูนคอมพิวเตอร์ด้วยพระองค์เอง ประมวลความรู้ ทางวิชาการและขั้นตอนปฏิบัติการทำฝนหลวงไว้อย่างครบถ้วน ง่ายต่อการศึกษาและนำไปปฏิบัติภายในกระดาษ เพียงหน้าเดียวเท่านั้น เทคโนโลยีฝนหลวงนับเป็นนวัตกรรมใหม่สุดของโลกซึ่งได้จดสิทธิบัตรในยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน ภายใต้ชื่อ Weather Modification by Royal Rainmaking Technology
2. กังหันน้ำชัยพัฒนา
ปัญหาน้ำเน่าเสียตามแหล่งน้ำต่างๆ ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงคิดค้นประดิษฐ์กังหันน้ำ ชัยพัฒนาขึ้นเมื่อปี 2531 เพื่อเป็นเครื่องมือบำบัดน้ำเสีย บนหลักคิดว่า ต้องผลิตได้เองในประเทศ และราคาไม่แพง พระองค์ทรงคิดรูปแบบของกังหันน้ำชัยพัฒนาโดยได้รับแรงบันดาลพระราชหฤทัยจาก “หลุก” เครื่องวิดน้ำเข้านาอันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน กังหันน้ำชัยพัฒนาเป็นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย มีชื่อรุ่นว่า Model RX-2 สามารถเพิ่มออกซิเจนในน้ำได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ติดตั้งทดลองใช้ครั้งแรกที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และวัดบวรนิเวศวิหารในปี 2532 ทั้งนี้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2536 พระองค์ทรง ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรการ ประดิษฐ์กังหันน้ำชัยพัฒนา นับเป็นสิ่งประดิษฐ์ ประเภทเครื่องกลเติมอากาศที่ได้รับสิทธิบัตรเครื่องที่ 9 ของโลก และในปีต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันนักประดิษฐ์”
3. แก้มลิง
แก้มลิง เป็นชื่อโครงการบริหารจัดการน้ำในฤดูน้ำหลาก เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในเขตใกล้ชายฝั่งทะเล หัวใจในการทำงานคือการระบายน้ำที่ไหลบ่ามาปริมาณมาก ซึ่งไม่สามารถระบายลงทะเลทันไปเก็บในบ่อพักน้ำ รอจนปริมาณน้ำทะเลลดลง จึงค่อยระบายน้ำจากบ่อพักน้ำลงทะเลไป โดยแนวพระราชดำริเรื่องโครงการแก้มลิงนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานครั้งแรกเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อปี 2538 ทรงตรัสว่า
“…ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงก็จะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยวๆ แล้วเอาไปเก็บที่แก้ม…การนำเอากล้วยหรืออาหารมาสะสมไว้ที่กระพุ้งแก้มก่อนการกลืนนี้ เป็นพฤติกรรมตัวอย่างที่จะนำมาใช้ในการระบายน้ำท่วมออกจากพื้นที่น้ำท่ามขังบริเวณทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของเจ้าพระยา…”
4. ทฤษฎีใหม่ 30 : 30 : 30 : 10
30 : 30 : 30 : 10 คือสูตรตัวเลขของ ทฤษฎีใหม่ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่เกษตรกรเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ที่ผ่านมาเกษตรกรไทยมักใช้พื้นที่ทั้งหมดเพาะปลูกโดยไม่มีแหล่งน้ำสำรอง ทั้งนี้ 30 : 30 : 30 : 10 หมายถึง ขุดสระเก็บน้ำ ปลูกข้าว ปลูกพืชสวน อย่างละร้อยละ 30 ของพื้นที่ และแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย คอกเลี้ยงสัตว์ อีกร้อยละ 10 ของพื้นที่ ต่อเมื่อสามารถจัดสรรพื้นที่ทำกินตามทฤษฎีใหม่ในขั้นต้นได้แล้วจึงบูรณาการเข้าสู่ขั้นที่ 2 คือ การรวมพลังของชุมชนให้เข้มแข็งขึ้น ตั้งแต่การผลิต การตลาด ไปจนถึงการจัดการด้านสังคม พัฒนาชุมชน และเมื่อชุมชนเข้มแข็ง กลุ่มเกษตรกรจะสามารถติดต่อประสานความร่วมมือกับแหล่งทุน ธนาคาร บริษัทเอกชน เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ร่วมกัน
5. โครงการหลวง
โครงการหลวงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เมืองไทยมีปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง ความยากไร้ของหมู่บ้านในชนบท การก่อการร้ายและขบวนการค้ายาเสพติด รวมถึงการแผ่อิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ ขณะที่รัฐบาลพยายามดำเนินการปราบปรามโดยใช้กำลังตำรวจและทหาร แต่ผลกลับยิ่งสูญเสียประชาชนไปเป็นแนวร่วมให้กับฝ่ายตรงข้าม โครงการหลวงจึงมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท ซึ่งเป็นรากฐานของปัญหาหลาย ๆ อย่าง โครงการหลวงมีจุดเริ่มต้นจากปี 2512 เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปบ้านแม้วดอยปุย และทรงพบว่าชาวแม้วที่ปลูกฝิ่นยังสามารถปลูกท้อพื้นเมืองลูกเล็กขายได้ในราคาดีเท่ากัน เป้าหมายของโครงการหลวงอยู่ที่การพัฒนาอาชีพให้ชาวเขา เพื่อเลิกการปลูกฝิ่นและการทำอาชีพผิดกฎหมายอื่นๆ โดยช่วยเหลือและส่งเสริม การปลูกพืชหมุนเวียนที่มีราคาสูง เช่น กาแฟ ไม้ดอกไม้ผลเมืองหนาว ซึ่งโครงการต้องศึกษาวิจัยทั้งด้านการปลูกพืชในที่สูง ชนิดของพืชที่เหมาะสม และการทำตลาด
ด้วยพระบารมีจากการเสด็จฯ เยี่ยมเยียนชาวเขาแต่ละเผ่าในเขตพื้นที่ต่างๆ โดยไม่ทรงย่อท้อ และทรงเข้าถึงชาวเขา โดยเสด็จฯ เยี่ยมถึงในบ้าน ทรงร่วมเสวยเหล้าและรับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆ ทำให้โครงการหลวงได้รับการยอมรับ ในระยะแรกเรียกว่า “โครงการชาวเขา” แต่เนื่องจากชาวเขาเรียกพระองค์ว่า “พ่อหลวง” ต่อมาจึงเรียกชื่อโครงการว่า “โครงการหลวง” ปัจจุบันโครงการหลวงมีงานวิจัยด้านการเกษตรบนที่สูงกว่า 550โครงการ วิจัยพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ มากกว่า 50 ชนิด โดยมีผลผลิตจัดจำหน่ายสู่ตลาดในชื่อทางการค้าว่า “ดอยคำ”
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: