'ศิริกัญญา' ชี้ งบกลางไม่ได้มีไว้โปะ 'รมว.คลัง' แจง ไม่ได้ตั้งงบเผื่อเหลือ บางเรื่องคาดการณ์ยาก
Автор: Prachatai
Загружено: 2025-08-13
Просмотров: 16194
Описание:
13 ส.ค. 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 วาระ 2 พิจารณารายมาตรามาถึงมาตรา 6 งบประมาณรายจ่ายงบกลางที่เดิมในร่างที่ผ่านชั้นรับหลักการตั้งงบมาเป็นเงินจำนวน 632,968,750,000 บาท
.
ทั้งนี้ในการพิจารณามาตรานี้ ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมาย (กมธ.) เสนอให้แก้ไขเพิ่มมา 1,000 ล้านบาทในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจากเดิมที่ตั้งมา 98,000 ล้านบาทเพิ่มมาเป็น 99,000 ล้านบาท ทำให้ยอดรวมของมาตรา 6 เพิ่มมาเป็น 633,968,750,000 บาท
.
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายในการพิจารณามาตรา 6 ว่าด้วยงบกลางว่า งบกลางมีการปรับลด 50,000 ล้านบาท สาเหตุการปรับลดงบกลางนั้น สืบเนื่องมาจากการเบิกจ่ายงบในส่วนของเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินจำเป็นที่อาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงมีการโยกงบประมาณในส่วนนี้เพื่อไปชำระหนี้ในส่วนอื่นๆ ที่อาจจะตั้งงบประมาณไว้ไม่เพียงพอ
.
งบปี 69 นี้ตั้งเงินชดใช้เงินคงคลังเพิ่มขึ้นมา 123,541 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ที่ต้องใช้เงินคงคลังก็เพราะว่าตั้งงบปี 67 ไว้ไม่พอ ส่วนเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินจำเป็นก็ไม่พอ ซึ่งใช้เพื่อชำระดอกเบี้ย 39,719 ล้านบาท, บำนาญข้าราชการ 42,127 ล้านบาท, ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ 23,944 ล้านบาท ฯลฯ งบประมาณเหล่านี้สามารถคำนวณล่วงหน้าได้ แต่ว่ากลับตั้งไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง แล้วค่อยไปอาศัยเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินจำเป็นในอนาคตแทน จึงทำให้ต้องมาตั้งงบใช้คืน
.
ศิริกัญญากล่าวว่า งบกลางเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินปี 67 ใช้หมดจนหยดสุดท้าย ตั้งไว้ 99,500 ล้านบาท ใช้ไปจนเหลือ 600 ล้านบาท แต่ปี 68 ตั้งไว้ 96,557 ล้านบาท เพิ่งใช้ไปเพียง 20,000 กว่าล้านบาทเท่านั้นเอง ยังเหลือ 70,000 ล้านบาท อาจเป็นเพราะว่าอยากกั๊กไว้ในไตรมาสสุดท้ายเผื่อต้องไปใช้ชำระหนี้ต่างๆ หรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็เห็นถึงประสิทธิภาพของการเบิกจ่ายเงินสำรองฉุกเฉินจำเป็น
.
ศิริกัญญากล่าวว่า ปี 68 มีงบกลางในการช่วยเหลือภัยแล้งแล้วเราพบว่ามีข้อพิรุธในการเบิกจ่ายเงินสำรองฉุกเฉินจำเป็นในลักษณะที่ค่อนข้างจะเอนเอียงไปที่พื้นที่ของพรรคแกนนำรัฐบาล จากนั้นสำนักงบประมาณออกหนังสือให้ทบทวนในเรื่องนี้ แต่ ณ วันนี้ ก็ทบทวนเสร็จแล้ว อยากให้มีการตั้งงบมาอีกรอบ ซึ่งมีการปรับลดงบลงจาก 7,404 ล้านบาท เหลือ 2,108 ล้านบาท นับว่าใจกล้ามาก เพราะเรื่องนี้กำลังอยู่ในการสอบสวนของ ป.ป.ช. อยู่ด้วย และขอให้งบครั้งนี้ 2,108 ล้านบาท มีการกระจายตัวที่มากขึ้น ไม่กระจุกอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลใดพรรคหนึ่ง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้พี่น้องประชาชนประสบความสำเร็จ
.
ทางด้าน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธาน กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ชี้แจงส่วนของมาตรา 6 ว่าโดยเป็นการตอบคำถามที่ย้อนถามถึงการเบิกจ่ายเกินไปจากจากงบประมาณที่ตั้งไว้ของปี 2568 เขาได้รับคำชี้แจงมาว่าการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีส่วนของงบกลาง ส่วนที่ตั้งงบประมาณเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ตาม พ.ร.บ.เงินคงคลัง 120,000 ล้านบาทเศษ ได้นำไปใช้นั้นมีการเบิกจ่ายงบประมาณที่ตั้งไว้จริงๆ ในปี 2568 มีรายการส่วนงบกลาง งบเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ ขาดประมาณ 42,127 ล้านบาท งบกลางในส่วนค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ 23,943 ล้านบาท เป็นงบส่วนที่มีการเบิกจ่ายเกินกว่าที่ตั้งงบประมาณไว้ งบกลางรายการเงินช่วยเหลือข้าราชการลูกจ้างและพนักงานของรัฐ 186 ล้านบาทเศษ ฯลฯ
.
งบประมาณส่วนงบกลางที่ตั้งไว้ มี 12 หมวด 1 ในนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเงินสำรองจ่ายที่จำเป็น แต่ในส่วนอื่นๆ เช่น งบประมาณสำหรับรับเสด็จ งบประมาณในเรื่องช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ฯลฯ เป็นงบในส่วนที่ไม่มีหน่วยรับงบประมาณที่ชัดเจน และเป็นงบประมาณส่วนที่ไม่มีลงไว้แน่ชัดเพราะต้องดูสถานการณ์ในรายปีว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเบิกจ่ายเท่าไหร่ เมื่อเกิดกรณีบุคลากรเสียชีวิตหรือต้องเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง ก็เป็นส่วนที่สำนักงบประมาณทำความตกลงกับกรมบัญชีกลางในแต่ละปี จะตั้งงบในส่วนของงบกลางมากน้อยตามความพอเหมาะ ไม่ได้ตั้งงบประมาณเผื่อเพียงพอจนกระทั่งว่างบในส่วนนี้จะเหลือได้
.
จุลพันธ์จึงได้กล่าวถึงส่วนของงบกลางเผื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เช่น เมื่อเกิดภัยพิบัติ การปะทะตามชายแดนหรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ งบที่ตั้งไว้สำหรับงบประมาณปี 2569 ไว้ 98,000 ล้านบาท และมีเสนอให้เพิ่มเข้ามา 1,000 ล้านบาท เป็น 99,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ใช้แก้ไขปัญหากับประชาชนได้
.
ส่วนของรายจ่ายที่ได้รับจัดสรรงบไว้แล้วแต่ไม่เพียงพอและยังจำเป็นเร่งด่วนของรัฐที่ต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน เช่น ไปประชุมนานาชาติดำเนินเข้าร่วมโครงการของ OECD เป็นงบ 4,500 ล้านบาท เป็นส่วนงานที่จำเป็นของรัฐบาลแต่ตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ จึงมีการใช้งบกลางเข้าไปจัดสรรเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ นอกจากนั้นยังมีส่วนงานที่ไม่ได้จัดสรรงบประมาณไว้แต่เป็นภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องใช้จ่าย 6,500 ล้านบาท เช่น การแก้ไขปัญหา PM2.5 หรือเป็นรายจ่ายที่รองนายกฯ ต้องไปตรวจราชการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงการแก้ไขเรื่องที่ดินตามการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐตามโครงการ One Map
.
จุลพันธ์กล่าวถึงคำถามเรื่องปีหน้าจะใช้งบกลางในเรื่องใดบ้างนั้น ในส่วนของงบกลางเป็นการตั้งงบประมาณที่ยังไม่มีโครงการขึ้นกับ ครม. นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณที่จะทำงานร่วมกันตามหน้าที่นำงบกลางไปใช้ตามวัตถุประสงค์ใดๆ
.
ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เปิดให้ลงมติว่าจะแก้ไขตามที่ กมธ.เสนอให้แก้ไขหรือไม่ ซึ่งผลการออกเสียงของที่ประชุมมีมติให้แก้ไขมาตรา 6 ตามที่ กมธ.เสนอให้แก้ไข ทำให้งบประมาณของงบกลางเพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาทตามที่ กมธ.เสนอ 633,968,750,000 บาท
.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://prachatai.com/journal/2025/08...
#ประชุมสภา #งบประมาณ69 #ประชาไท #prachatai
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: