ถาม-ตอบ หัวหน้าสมเจต จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว

Описание: 🕹ประชาชน ชาวตำบลพะโต๊ะพร้อมด้วยผู้นำท้องที่ท้องถิ่น 500 ท่าน ให้การต้อนรับ สนช.กลชัย และทีมงานชุมพรฟ้าใหม่ และสภาองค์กรชุมชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว

🕹โดยมีผู้นำท้องที่ท้องถิ่นร่วม

1 นาย วิมล แก่นกูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลพะโต๊ะ
2 นาย สุรัตน์ ลิมปรัชดาวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ตำบลพะโต๊ะ
3 นายอติ พุทธิปิลันธน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ตำบลพะโต๊ะ
4 นาย วิชัย สุขเจริญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 18 ตำบลพะโต๊ะ
5 นาย ภานุพงศ์ พิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลปังหวาน
6 นาย ณรงค์ศักดิ์ จิตสิริ สท. ตำบลพะโต๊ะ
7 นาย ประจักษ์ เสนา ผู้ใหญ่หมู่ 1 ต. ปังหวาน
8 นาย ชนก จันทรสาขา ประธานสภาเทศบาลพะโต๊ะ
9 นาย ณรงค์ สังข์กล่ำ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติคลองแย
10 นายนิรัตน์ พ่วงพี เขตจัดการอุทยานแห่งชาติที่ 2
11 นาย สมเจต จันทนา หัวหน้า อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
12 นาย ปราโมทย์ แก่นกูล ประธานสภาอบต.พะโต๊ะ
13 นาย ไพรัตน์ ลิมปรัชดาวงศ์ สอบต.พะโต๊ะหมู่ 14
14 นส.อรวรรณ หนูยัง สอบต.พระรักษ์

🕹 โดย "ลุงแอ๊ด"ได้กล่าวว่า #เสียใจมาก ที่ประชาชนโดนสกัดกั้นไม่ให้มารับรู้ถึงข่าวสาร
ลุงแอ๊ดได้กล่าวว่าเสียดายที่ชุมพรได้รับการพัฒนาที่ช้าที่สุด
🕹เพราะการขับเคลื่อนพัฒนาไปอยู่ที่เรื่องการเมือง การเมืองรุ่นเก่า คอยยุแหย่สนับสนุนนาย ก.นาย ข.ไปแข่งผู้ใหญ่บ้าน แข่งกำนัน แข่ง อบต. ทำให้เกิดความขัดแย้ง ลุงแอ๊ดกล่าวว่าเบื่อที่สุดทำให้ไม่อยาก ยุ่งเรื่องการเมือง อยากเล่าเรื่องความจริงให้พี่น้องฟัง

🕹กิจกรรม ในวันนี้ สร้างความเข้าใจ การมีส่วนร่วม คนกับป่าอยู่ได้อย่างไร และ แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินราษฎร พื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์” พบปะ พูดคุย รับฟัง เสนอแนะ กับ ""สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ""

(1) - คณะกรรมการ นโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) แก้อย่างไรให้ครอบคลุมพื้นที่ป่าทุกประเภท
และ คทช. มี อำนาจหน้าที่ อย่างไร
(2).. ก้าวสำคัญ กฎหมายป่าไม้ไทยแก้ไขเพิ่มเติมให้ไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายไม่เป็นไม้หวงห้ามและการทำไม้ในที่ดินดังกล่าวไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่รวมทั้ง แก้ไขคำว่า""ทำไม้ ..""

🕹 . วัน พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2562""สำนักสงฆ์ ปะติมะ""
หมู่ที่ 7 ตำบล พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ดำเนินกิจกรรมโดย"" สภาองค์กรชุมชน""

** #ท่านใดไม่ได้มาในวันนี้ #พบกับเวทีใหญ่ เร็วๆนี้ *

🕹ทั้งนี้ การแก้ปัญหาการถือครองที่ดินและการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ภายใต้การทำงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. โดยกำหนดพื้นที่จัดสรร 884 แห่ง จาก 70 จังหวัด เนื้อที่รวม 1.3 ล้านไร่ ที่ออกหนังสืออนุญาตใช้ประโยชน์ไปแล้ว 140 แห่ง รวมเนื้อที่ 400,000 กว่าไร่ มีชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จำนวน 52,362 คน แบ่งได้ 66,733 แปลง เพื่อพัฒนาเป็นที่ทำกินในรูปแบบของสหกรณ์ ซึ่ง คทช.ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายออกเป็น 5 กลุ่ม คือ
📍 กลุ่มที่ 1 ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 3,4,5 ก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541,
📍 กลุ่มที่ 2 ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 3,4,5 หลังมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 แต่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557,
📍 กลุ่มที่ 3 ชุมชนในเขตป่าสงวนฯ อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ก่อนและหลังมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541,
📍กลุ่มที่ 4 ชุมชนอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ก่อนและหลัง มติ ครม. 30 มิ.ย. 2541,
📍กลุ่มที่ 5 ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน คือ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่เมืองและสิ่งปลูกสร้าง

และจากการสำรวจภาพถ่ายทางดาวเทียมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ปี 2557 พบราษฎรครอบครองที่ดินก่อนมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 จำนวน 3.6 ล้านไร่ และครอบครองหลังมติ ครม.อีก 2.3 ล้านไร่ รวม 5.9 ล้านไร่ ซึ่งในมติ ครม.ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 ได้เห็นชอบในการแก้ปัญหาพื้นที่ทำกินดังกล่าว โดยจะแก้กฎหมาย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เพื่ออนุญาตให้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์พิจารณาว่าเป็นชุมชนอาศัยเดิม ไม่มีการจัดที่ดินให้แก่บุคคลนอกพื้นที่ กำหนดขอบเขตที่ทำกินและยอมรับร่วมกันในชุมชน ซึ่งเป็นสิทธิทำกินแบบไม่มีเอกสารสิทธิ

สำหรับพื้นที่เปราะบางทางธรรมชาติ ส่วนมากอยู่ทางภาคเหนือ คือ พื้นที่ลุ่มน้ำ ลาดชัน ซึ่งกรมอุทยานฯ กำลังพิจารณาว่ามีผลกระทบต่อระบบนิเวศหรือไม่ หากประเมินแล้วว่าอาจส่งผลต่อระบบนิเวศหรือการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพผิวดิน อาจต้องย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ในพื้นที่ 5.9 ล้านไร่ พบบางพื้นที่ถูกแผ้วถางเป็นพื้นที่รกร้าง ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จะตกเป็นของรัฐต่อไป โดย คทช. เชื่อว่า การจัดสรรพื้นที่ทำกินครั้งนี้จะทำเสร็จครบตามจำนวนในรัฐบาลชุดนี้

สุดท้ายขอฝากพี่น้องทุกคน เลือกคนดี ""มีคุณธรรม""จริยธรรม""มีความรู้""และ""ไม่โกงกิน""มาเป็น สส.บ้านเรา