ทุ สะ นะ โส เสียงสัตว์นรกที่ผิดศีลข้อ3

Описание: 🔴ทุสะนะโสเสียงสัตว์นรกที่ผิดศีลขัอ3

🔆ในคืนนั้นเอง พระเจ้าปเสนทิโกศลบรรทมไม่หลับ
กลางยามดึกได้ยินเสียงดังมาจากทิศทางหนึ่ง เสียงนั้นมีเพียงสี่คำ
“ทุ… สะ… นะ… โส…”

🔆พระองค์ตกพระทัย คิดว่าอาจเป็นลางร้ายที่จะถึงพระชนม์ชีพ
รุ่งขึ้นจึงให้เรียกพราหมณ์มาทำนาย พราหมณ์ทูลว่า
“เสียงนี้หมายถึงอันตรายใหญ่ จะมีภัยถึงชีวิต ต้องบูชายัญสัตว์อย่างละหนึ่งร้อย ทั้งช้าง ม้า วัว แพะ แกะ และมนุษย์ชายหญิงอย่างละร้อย เพื่อแก้เคราะห์”

🔆พระราชาเชื่อคำพราหมณ์ จึงสั่งให้จับสัตว์และมนุษย์จำนวนมาก เตรียมไว้ฆ่า
เสียงร้องไห้ของผู้คนดังไปทั่วพระนคร

พระนางมัลลิกาเทวีทรงทราบเรื่อง จึงเข้าเฝ้าแล้วตรัสว่า
“ข้าแต่มหาราช พระองค์จะได้ชีวิตของตนด้วยการฆ่าชีวิตผู้อื่นนั้นไม่สมควรเลย
ขอพระองค์เสด็จไปทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะดีกว่า”

เมื่อทั้งสองเสด็จไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า
“เสียงที่พระองค์ทรงได้ยินเป็นเช่นไร?”

พระราชาทูลว่า “เสียงว่า ‘ทุ สะ นะ โส’ พระเจ้าข้า”

พระศาสดาตรัสว่า
“อย่าทรงหวาดกลัวเลย มหาราช อันตรายไม่มีแก่พระองค์
เสียงนั้นมิใช่ลางร้าย แต่เป็นเสียงของสัตว์นรกสี่ตนที่โผล่พ้นจากปากหม้อนรกโลหกุมภี”

🔆นรกโลหกุมภี เป็นนรกขุมหนึ่ง เต็มไปด้วยไฟเดือด
สัตว์นรกเหล่านี้ต้องตกอยู่ในหม้อเหล็กที่เต็มไปด้วยโลหะหลอมร้อน ลึกถึงหกสิบโยชน์
เมื่อถูกไฟแผดเผา ก็จมลงสู่ก้นหม้อนานถึงสามหมื่นปี แล้วลอยขึ้นมาถึงปากหม้ออีกสามหมื่นปี
พอเงยหัวขึ้นได้ก็ปรารถนาจะพูดคาถาสำนึกบาป แต่พูดได้เพียงตนละอักษร
ตัวแรกพูดว่า “ทุ” ตัวที่สองพูดว่า “สะ” ตัวที่สามว่า “นะ” ตัวสุดท้ายว่า “โส”
พูดเสร็จก็จมกลับลงไปอีก
ทั้งสี่ตนนั้นเคยเป็นเศรษฐีในอดีตสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า
เมื่อมั่งมีศรีสุขกลับประพฤติผิดศีลข้อสาม คือล่วงภรรยาผู้อื่น
ตายแล้วจึงต้องไปไหม้อยู่ในอเวจีมหานรกตลอดพุทธันดรหนึ่ง
พอสิ้นกรรมจากอเวจี ก็มาเกิดในโลหกุมภีนรกนี้ต่ออีก

🔆พระพุทธเจ้าจึงตรัสพระคาถา มีแต่ความสำคัญ ว่า

“ราตรีของผู้ไม่หลับย่อมยาวนาน
ระยะโยชน์ของผู้เหน็ดเหนื่อยย่อมไกล
และสังสารวัฏของคนพาลผู้ไม่รู้สัทธรรม—ย่อมยาวนานที่สุด”

🔆เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ฟัง ก็เกิดความสังเวชว่า
“แม้เราจะยังไม่ทำผิดศีลข้อสาม แต่เพียงแค่คิดปรารถนาในภรรยาผู้อื่น ใจก็ร้อนระอุเช่นนี้
ชนทั้งสี่ที่ล่วงแล้ว จะทุกข์เพียงใดหนอ”
จึงทรงสำนึกและตั้งใจว่าจะไม่คิดในทางผิดอีกต่อไป

พระราชาทรงเลิกบูชายัญทั้งหมด โปรดให้ปล่อยสัตว์และมนุษย์ที่ถูกจับมา
ประชาชนต่างยินดีสรรเสริญพระนางมัลลิกาว่าเป็นผู้มีปัญญาใหญ่ ช่วยชีวิตคนทั้งเมืองไว้

🔆ส่วนชายสามัญผู้นั้น เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ในวันนั้น
จิตใจสว่างขึ้น บรรลุโสดาปัตติผล เป็นอริยบุคคลชั้นต้นในพระศาสนา

🔴ข้อคิดธรรมะ

1.ไฟราคะพาให้คนทำผิดได้ง่าย: ความกำหนัดทำให้กษัตริย์คิดเอาภรรยาผู้อื่น และพร้อมจะยกอาชญาเพื่อหาช่องโทษ—ราคะทำให้สติหลุดและศีลพร่อง

2.ศีลข้อสามหนักจริง: เปรตสี่ตนร้อง “ทุ–สะ–นะ–โส” เพราะวิบากผิดศีลข้อสาม (ปรทาริกกรรม) ยืดยาวถึงนรกอเวจี–โลหกุมภี สอนว่า “สุขชั่วคราวของกาม แลกทุกข์ยาวนาน”

3.ปัญญาเหนือพิธี: ปุโรหิตเสนอให้ฆ่าสัตว์เซ่นไหว้ แต่พระนางมัลลิกาชี้ให้อาศัยพระพุทธเจ้า แสดงว่า ปัญญาตามธรรม ความเชื่อพิธี/ไสยศาสตร์

4.บุญมีอำนาจเมื่อประกอบด้วยเจตนาดี: ชายหนุ่มทำทานระหว่างเดินทาง แบ่งภัตให้คน–สัตว์ แล้วอุทิศส่วนกุศล จึงได้ “นาค” ช่วยนำดินศรีอรุณ–ดอกโกมุท–ดอกอุบล

5.สติในยามคับขัน: เมื่อทางโลกตัน เขา “เข้าหาวัด” ได้ที่พึ่งทางใจ—นี่คือการรู้จักหันกลับหาธรรม

6.ฟังธรรมแล้ว “เปลี่ยนใจ–เปลี่ยนชีวิต”: พระราชาได้ฟังโทษแห่งกาม จึง “เลิกคิดเอาภรรยาผู้อื่น”; ชายหนุ่มฟังธรรมจน บรรลุโสดาบัน —ธรรมเปลี่ยนจิต เปลี่ยนทางเลือก

✅ศึกษาเพิ่มเติม

🔆พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ฉบับมหาจุฬาฯ
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

๕. พาลวรรค
หมวดว่าด้วยคนพาล๑-
๑. อัญญตรปุริสวัตถุ
เรื่องชายคนใดคนหนึ่ง


🔆อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕

         ๕. พาลวรรควรรณนา         
         ๑. เรื่องบุรุษคนใดคนหนึ่ง
#ธรรมะ #พระพุทธเจ้า #พระเจ้าปเสนทิโกศล #พระนางมัลลิกา #ศีลข้อสาม #เตือนใจ #บรรลุโสดาบัน #ฟังธรรม #ทานบารมี #อุทิศส่วนกุศล

#Lohakumbhi #Naga #Pasenadi #Mallika #DhammaTalk #KeepPrecepts #RightView #EndSuffering #Generosity #Mindfulness