เรื่อง สิวๆ ในวัย 30+ ที่คุณอาจ..ยังไม่รู้!? - Talk To Heal【 Podcast 】EP.3

Описание: 1.ทำไมบางคน 30+ แต่ยังเป็น #สิว ?

ถึงแม้จะอายุ 30+ แล้วก็ยังเป็น #สิว ได้ โดยเฉพาะผู้หญิง จากงานวิจัยพบว่า ผู้หญิงอายุ 25-45 ปี เป็น #สิว เพิ่มขึ้น 20% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เรียกว่า Adult Acne และบริเวณที่พบได้บ่อยคือ คาง จมูก เป็นต้น
สาเหตุเกิดได้จาก
• #ฮอร์โมนเพศ
ช่วงก่อนมี #ประจำเดือน #estrogen ลด, #progesterone เพิ่ม ทำให้ #ต่อมไขมัน ทำงานมากขึ้น
ช่วงใกล้ #หมดประจำเดือน Perimenopause #estrogen ลด แต่ #testosterone เท่าเดิมทำให้
#ฮอร์โมนไม่สมดุล
ปัญหา #PCOS polycystic ovarian syndrome เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่เพศหญิงที่ยังเป็นสิว
**ส่วนใหญ่จะเป็น #สิว ในบริเวณคาง ช่วงก่อน #ประจำเดือน 1 สัปดาห์ จากนั้นก็จะหายไป แล้วเป็นวนแบบนี้ซ้ำทุกๆเดือน
• #ความเครียด และ #cortisol ถ้าสูงขึ้นจึงกระตุ้นให้ผลิต #sebum มากขึ้น
skin microbiome ของผิวเปลี่ยนไป immunity ของผิวลดลง

2.พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ #สิว ที่เคยหายหรือเคยรักษาแล้วกลับมาเป็นซ้ำ
รู้หรือไม่ การใช้ #มือถือ #คอมพิวเตอร์ หรือเจอ #แสงสีฟ้า มากๆ มีงานวิจัยพบว่า มันไปกระตุ้น #Cortisol และทำให้สมดุลของ #การนอนหลับ มีปัญหา รวมไปถึง #มลภาวะ ต่างๆ เช่น #ควันรถ #ควันบุหรี่ #ควันไฟ
#ฝุ่นPM2.5 ทำให้เกิดการอักเสบ และกระตุ้น #cortisol และการรับประทานอาหาร เช่น #น้ำหวาน #ชาไข่มุก #ชาเย็น ที่มีส่วนผสมของ #น้ำตาล #อาหารแปรรูป สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และ #ก่อให้เกิดสิว ได้ ทั้งนี้ การใช้ #ครีม หรือ #เครื่องสำอาง ที่ไม่เหมาะกับผิวของเรา ก็ทำให้เกิด #สิว ได้เช่นกัน จากงานวิจัย พบว่า เมื่อ#สิว หายแล้ว แต่เซลล์ที่รูขุมขนนั้นยังคงจดจำการอักเสบได้อยู่ 9-12 เดือน เมื่อมีการกระตุ้น ก็พร้อมที่จะอักเสบทันที

3. คน #เป็นสิว ไม่ควรใช้ #ครีมรักษาสิว อะไรก็ได้จริงไหม ? และ #สกินแคร์ ที่เหมาะกับคนเป็น #สิว ต้องดูยังไง ?
ต้องบอกว่าจริง เพราะการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เสริมการทำงานของ เกราะป้องกันผิว Skin barrier สำคัญมาก ควรเน้น #สกินแคร์ ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิด #การอุดตัน และเหมาะกับสภาพผิวเรา บางคนเห็นรีวิวมาว่าดี แต่พอซื้อมาใช้เอง กลับไม่ได้ดีเหมือนที่รีวิว ก็เพราะว่าผลิตภัณฑ์นั้น ไม่เหมาะกับเรานั่นเอง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อมาใช้ค่ะ
4.ส่วนผสมของ #สกินแคร์ ที่เหมาะสำหรับคนที่เป็น #สิว
• Benzyl Peroxide BPO ช่วย #ฆ่าเชื้อสิว
• ยาปฏิชีวนะชนิดทา เช่น Clindamycin, Erythromycin ช่วยลดการอักเสบ ควรทาร่วมกับยา BPO เพื่อลดความเสี่ยงในการดื้อยา
• Topical retinoid เช่น Adapalene, Tretinoin, Tazarotene, Trifarotene ช่วยลดการอุดตันของ
#รูขุมขน
• Azelaic acid/ salicylic acid ช่วยลดการอุดตันของ #รูขุมขน ลดการอักเสบ และช่วยทำให้ #ผลัดเซลล์ผิว
• Niacinamide ช่วยลดการอักเสบ และควบคุมความมันบนใบหน้า
• Ceramide ช่วยเสริมการทำงานของ #เกราะป้องกันสิว
5.ส่วนผสมที่คนเป็น #สิว ควรหลีกเลี่ยง
• ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน Oil-products
• ครีมที่มีเนื้อเข้มข้น เช่น shea butter, cocoa butter
• #น้ำหอม
• #แอลกอฮอล์
• สครับแบบหยาบ เนื่องจากสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้

ทั้งนี้ใครที่ชอบ #บีบสิว #แกะสิว ต้องหยุด! เพราะมันอันตรายมากกว่าที่คิด และอาจทำให้เกิด #รอยสิว หรือ
#หลุมสิว ได้ ในคนที่อายุมาก ถ้ารักษาผิดวิธี อาจทำให้เกิด #หลุมสิว และรักษาได้ยากจริงไหม?

ต้องบอกแบบนี้ว่า การ #กดสิว หรือ #บีบสิว ด้วยตัวเอง เสี่ยงติดเชื้อเพราะมือของเรามีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น หากบีบออกไม่หมด ก็อาจเป็น #สิวซีสต์ ได้ หรือทำให้อักเสบมากขึ้น สำคัญคือทำให้เกิดแผล จากการบีบ และทิ้ง #รอยดำ #รอยแดง รวมไปถึง #หลุมสิว

การ #รักษาหลุมสิว นั้นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป #หลุมสิว เกิดจากการที่ #คอลลาเจน ในบริเวณถูกทำลายไป จึงทำให้กลายเป็นหลุม การรักษาจึงเป็นต้องใช้การกระตุ้นการสร้าง #คอลลาเจน แต่ #หลุมสิว มีหลายประเภท การรักษาในแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันออกไปอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการรักษา
#หลุมสิว คือ
• #อายุ เพราะยิ่งอายุเยอะ กระบวนการสร้าง #คอลลาเจน หรือเรียกง่ายๆว่าการสมานแผลก็จะน้อยลง
• #ประเภทของหลุมสิว #หลุมสิวลึก จะรักษายากกว่า #หลุมสิวตื้น
• ระยะเวลาที่เป็น #หลุมสิว หากทิ้งไว้นานกว่าจะเริ่มรักษา จะรักษายากกว่า #หลุมสิว ใหม่ๆ ที่เพิ่งเป็น
• พฤติกรรม หากเป็นคนที่ชอบจับ แกะ เกา ก็จะส่งผลให้หายช้ากว่าคนที่ไม่ไปจับ เนื่องจากไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น

6. #แผ่นแปะสิว ช่วยได้จริงหรอ ?
สามารถช่วยได้ค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของ #สิว ไม่ได้ใช้กับ #สิว ทุกประเภท จะใช้ได้กับ #สิวหัวขาว หรือสิว ที่กำลังจะแตก ไม่เหมาะกับ #สิวหัวดำ #สิวซีสต์ หรือ #สิวอักเสบ ที่อยู่ลึกลงไปในผิว

7.ใส่แมสเพราะกลัวฝุ่น กลัวมลพิษ แต่ใส่แล้ว #ทำไมสิวชอบเห่อ ?
เป็นเรื่องของการเสียดสี ผิวที่โดนหน้ากากระคายเคือง ก็ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น รวมไปถึง ความอับชื้น จากการหายใจ และเหงื่อ ทำให้เกิด #แบคทีเรียสะสม และเป็น #สิว ได้ ทั้งนี้ยังมีเรื่องของ การแพ้ #สารเคมี หรือ การใส่ #หน้ากากอนามัย นานๆทำให้ #Microbiome เปลี่ยนแปลงไป เชื้อตัวดีลดลง ค่า pH ของผิวก็เปลี่ยนไป ปัจจัยเหล่านี้เป็นคำตอบว่า #ทำไมเราใส่แมสนานๆสิวถึงชอบเห่ออยู่เรื่อย

8. #วิธีป้องกันการเกิดสิว และ #วิธิรักษาไม่ให้สิวกลับมาเป็นซ้ำ ?
เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกินอาหาร เช่น งด #นมวัว งด #ของหวาน #ของมัน หรือ #อาหารหมักดอง #อาหารแปรรูป
พักผ่อนให้เพียงพอ
จัดการ #ความเครียด หากิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย
เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว และปัญหาผิวของตนเอง
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีมลภาวะ เช่น #ฝุ่น #ควันรถ #ควันบุหรี่
หากสิวมีอาการรุนแรง อักเสบมาก มีตุ่มหนอง ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา #หลุมสิว ตามมา
ในผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับ #ฮอร์โมน ให้พบแพทย์เพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุล