อาวุธขั้นสูงของสหรัฐอเมริกาที่เข้าประจําการในปี 2024

Описание: 1. General Atomics Mojave เป็นยานบินไร้คนขับที่มีความสามารถในการขึ้นและลงจอดระยะสั้น ซึ่งพัฒนาโดย General Atomics Aeronautical Systems
ยานบินไร้คนขับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำหน้าที่เป็นยานรบทางอากาศไร้คนขับที่สามารถปฏิบัติการในพื้นที่ขรุขระโดยมีการโหลดอุปกรณ์การรบ
นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดิน
2 CH-47F Block II เป็นเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนักที่ออกแบบด้วยเครื่องยนต์กังหันคู่และใบพัดแบบคู่ ออกแบบมาเพื่อขนส่งกำลังรบ 31 นาย ปืนใหญ่ และน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 22,000 ปอนด์
3 FIM-92K Stinger เป็นระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศแบบพกพาได้รุ่นปรับปรุงใหม่
รุ่นการผลิตใหม่นี้สามารถปรับให้ใช้กับการยิงจากยานพาหนะภาคพื้นดินและเฮลิคอปเตอร์รุ่นต่างๆ ได้ โดยทำหน้าที่เป็น Air-to-Air Stinger
ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้ข้อมูลเชื่อมโยงของยานพาหนะแทนอุปกรณ์ค้นหาของขีปนาวุธในการกำหนดเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบนี้มีประสิทธิผลอย่างยิ่งต่อโดรน
4 SM-6 Block Ib มีเครื่องยนต์จรวดที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้ขีปนาวุธสามารถทำความเร็วได้เหนือเสียง
ขีปนาวุธ SM-6 ที่ได้รับการอัพเกรดนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับการออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นเป้าหมายที่มีความเร็วเหนือเสียง ขีปนาวุธอเนกประสงค์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโจมตีเป้าหมายบนพื้นผิว และสามารถนำไปติดตั้งจากเรือหรือสถานที่ใดๆ ก็ได้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของกองทัพเรือในการควบคุมทางทะเล
5 AIRCPSWS - ระบบอาวุธโจมตีพร้อมท์ระยะกลางแบบธรรมดา (AIRCPSWS) ของกองทัพบกสหรัฐเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยออกแบบมาเพื่อเดินทางในระยะทางตั้งแต่ 500 ถึง 5,500 กม. ซึ่งเป็นความสามารถที่เคยถูกจำกัดไว้โดยสนธิสัญญา INF
6 Precision Strike Missile (PrSM) คือขีปนาวุธพิสัยสั้นรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อกองทัพบกสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อมาแทนที่ MGM-140 ATACMS
ขีปนาวุธ PrSM ได้รับการออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระยะ 60 ถึง 499 กิโลเมตร โดยมาพร้อมระบบนำวิถีที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อความแม่นยำที่สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS
7. F-15EX Super Eagle เป็นเครื่องบินรุ่นสองที่นั่งที่พัฒนามาจากเครื่องบิน F-15X โดยอาจใช้เป็นโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจโจมตี และอาจเป็นรุ่นต่อยอดจาก F-15E Strike Eagle
การปรับปรุงที่น่าสังเกตได้แก่ การรวมระบบ Advanced Missile และ Bomb Ejector Rack ซึ่งช่วยให้สามารถบรรทุกขีปนาวุธอากาศสู่อากาศได้สูงสุด 22 ลูก
การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่ ความสามารถในการค้นหาและติดตามอินฟราเรด อุปกรณ์การบินขั้นสูงและอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ เรดาร์ AESA และโครงสร้างที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งมีอายุการใช้งาน 20,000 ชั่วโมง
8 F-16 Block 70/72 ถือเป็นรุ่นที่ก้าวหน้าที่สุดของ F-16 Fighting Falcon โดยผสานความสามารถใหม่และการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพการปฏิบัติการของเครื่องบินขับไล่จนถึงอย่างน้อยปี 2060
การอัพเกรดครั้งนี้ส่งผลให้โครงสร้างของรูปแบบใหม่มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับมาตรฐานการผลิต F-16 ก่อนหน้านี้
ด้วยอายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้นถึง 12,000 ชั่วโมง เครื่องบินรบจึงเน้นย้ำถึงการทำงานร่วมกันกับกองกำลังพันธมิตร
คุณสมบัติที่โดดเด่น ได้แก่ เรดาร์ APG-83 AESA ขั้นสูงของ Northrop Grumman และสถาปัตยกรรมเอวิโอนิกส์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่