จิต เป็นผู้ก่อกรรม เจ้ากรรมนายเวร คือ ใคร กรรมเก่าเกิดจากอะไร เสียงธรรม หลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ
Автор: Ami Amornrat : Writer & investor
Загружено: 2024-09-18
Просмотров: 17973
Описание:
กรรม คืออะไร
อธิบายตามพุทธวจน บันทึกไว้ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ดังนี้
“…ดูกรภิกษุทั้งหลาย, เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม บุคคลคิดแล้วจึงกระทำกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา
ด้วยใจ…”
ดังนั้นการกระทำทั้งสามโดยมีเจตนา จึงจะเรียกว่า กรรม! ส่วนเหตุเกิด หรือแดนเกิดของกรรม ท่านตรัสว่า (อยู่ในสูตรเดียวกัน):
“…เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ผัสสะเป็นเหตุเกิดแห่งกรรม…”
ผลของกรรมที่เกิดจากเจตนา เรียกว่า ‘วิบาก’ ตรัสดังนี้:
“…ก็ความ ต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือ กรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี ที่ให้วิบากในกำเนิด สัตว์ดิรัจฉานก็มี ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี ที่ให้วิบากในมนุษย์โลกก็มี ที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี นี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม
ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามี ๓ ประการ คือ กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน ๑, กรรม ที่ให้ผลในภพที่เกิด ๑, กรรมที่ให้ผลในภพต่อ ๆ ไป ๑ นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม…”
นี้คือการอธิบาย ธรรมชาติแห่งการเกิดของ ‘กรรม’ และธรรมชาติในผลของกรรมที่สำเร็จแล้ว อันเรียกว่า ‘วิบาก’
เจ้ากรรม นายเวร ผู้มีบัญชาทุกข์แก่เรา มีหรือไม่?
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต หน้าที่ ๓๙๓ ว่า;
“…ภิกษุ ทั้งหลาย ฐานะที่ไม่อาจเป็นไปได้ ๖ ประการเหล่านี้มีอยู่ หกประการ เหล่าไหนเล่า? หกประการ คือ ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่อาจมาสู่ทิฏฐิว่า…
– สุขและทุกข์ ตนทำเอง
– สุขและทุกข์ ผู้อื่นทำให้
– สุขและทุกข์ ตนทำเองก็มี ผู้อื่นทำให้ก็มี
– สุขและทุกข์ ไม่ต้องทำเอง เกิดขึ้นได้ตามลำพัง
– สุขและทุกข์ ไม่ต้องใครอื่นทำให้ เกิดขึ้นได้ตามลำพัง
– สุขและทุกข์ ไม่ต้องทำเอง และไม่ต้องใครอื่นทำให้ เกิดขึ้นได้ตามลำพัง
ข้อนั้น เพราะเหตุไร? ภิกษุ ทั้งหลาย ข้อนั้นเพราะเหตุว่าเหตุ อันผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิเห็นแล้วโดยแท้จริง และธรรมทั้งหลายก็เป็นสิ่งที่เกิดมาแต่เหตุด้วย…”
ดังนั้น ความเป็นเจ้าแห่งสุขและทุกข์ของใคร ๆ นั้นไม่มี แต่สิ่งที่มีรับรอง คือ ‘คู่ผู้ผูกเวร’ หรือ ‘คู่เวร’
‘คู่ผู้ผูกเวร’ ได้แก่ บุคคลที่ผูกโกรธ พยาบาท ผูกอาฆาตต่อคู่กรณีของเขานั้นมี และสามารถตามจองล้างจองผลาญคู่ผูกเวรได้ด้วยจิตอกุศลเหล่านั้น แต่จะทำอันตรายอีกฝ่ายได้มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่เหตุปัจจัย
เพราะอนึ่ง บุคคลมีจิตฝังลึกในอกุศลจนลมหายใจสุดท้าย เมื่อกายอันเป็นที่ตั้งของกองอุปาทานขันธ์ ๕ แตกทำลาย จิตย่อมเคลื่อนไปสู่ ทุขคติภูมิ เป็นอันดับแรก และหากคู่กรณีวางจิตเมตตาไม่ผูกโกรธจนลมหายใจสุดท้าย เขาย่อมเคลื่อนไปสู่ สุขคติภูมิ
โดยหลักการอย่างนี้ โอกาสจะเจอกันในกาลข้างหน้าย่อมไม่ง่าย
สรุปเรื่อง เวรกรรม และ เจ้ากรรมนายเวร
– บัญญัติที่เรียกว่า เวรกรรม นั้นไม่มี
– สิ่งที่มี คือ กรรม และ ผลของกรรม
– ทำกรรมอย่างไร รับผลตามที่สมควรแก่เหตุ
– การส่งผลของวิบาก ไม่สามารถบังคับบัญชาได้
– ดังนี้ สิ่งที่เรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร จึงไม่มี
– ที่มีคือ คู่ผู้ผูกโกรธ ผูกเวร ผู้เพ่งจองเวร จองร้าย
แหล่งอ้างอิงบทความ จาก dharmadar.com โดย POPULAR POSTS
Повторяем попытку...

Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: