เกาะติดสถานการณ์น้ำ เปิดเส้นทางน้ำเหนือ ข่าวเที่ยง วันที่ 26 สิงหาคม 2567

Описание: เส้นทางการระบายน้ำจากภาคเหนือ ลงสู่ลุ่มแม่น้ำภาคกลาง

1.ในภาคเหนือมีเขื่อนที่สำคัญอยู่ 4 แห่ง คือเขื่อนภูมิพล จ.ตากกั้นแม่น้ำปิง, เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์กั้นแม่น้ำน่าน, เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปางกั้นแม่น้ำวัง ส่วนแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนกั้นหากฝนตกมากน้ำจะท่วมจังหวัดพะเยา แพร่ สุโขทัยและพิษณุโลกเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลกกั้นแม่น้ำแควน้อย ทั้งหมดจะไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ ต.ชุม แสง อ.ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์


2.แม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลผ่านจังหวัดอุทัยธานี โดยมีแม่น้ำสะแกกรังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วไหลผ่านจังหวัดชัยนาท ที่นี่จะมีเขื่อนเจ้าพระยากั้นกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอสรรพยาจะมีประตูระบายน้ำปิดเปิดตามที่กำหนด


3.แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านไปยังจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา ที่นี่จะมีแม่น้ำป่าสักที่ระบายน้ำออกมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จังหวัดลพบุรี ระบายมายังจังหวัดอยุธยาผ่านเขื่อนพระรามหก และมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าวัดพนัญเชิงแล้วไหลไปสู่จังหวัดปทุมธานี, นนทบุรี, กรุงเทพฯ และออกสู่อ่าวไทยที่ อำเภอปากน้ำจัง หวัดสมุทรปราการ


4.ฝนตกในภาคเหนือในปริมาณมาก น้ำจะไหลบ่ามาสู่ภาคกลาง หากสถานีวัดน้ำ C.13 จังหวัดชัยนาทปล่อยน้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาถึง 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที และสถานีวัดน้ำ C.29Aที่หน้าศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ตรวจวัดปริมาณน้ำได้เกิน 2500 ลบ.ม.ต่อวินาทีจะทำให้น้ำในแม่ น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเกิน1.0เมตรจากปรกติทำให้น้ำล้นตลิ่ง ประกอบกับฝนตกหนักจะมีโอกาสที่น้ำจะท่วมจังหวัดนนทบรี กรุง เทพฝั่งตะวันออกและสมุทรปราการได้มากขึ้น


5.ร่องมรสุมและพายุที่พัดเข้ามากขึ้นและแรงขึ้น+ปรากฎการณ์ลานิญากำลังแรง + น้ำเหนือไหลหลาก+น้ำทะเลหนุน จะทำให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้น น้ำท่วมจะภาคกลางถึงกรุงเทพหรือไม่ต้องจับตาดูช่วงกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมนี้ ทั้งหมดมาจากโลกที่ร้อนขึ้นทุกปี