ใบเซอร์ไม่ดู มาดูมวลสารพระสมเด็จกันดีกว่า | เกศบัวตูม วัดระฆัง | EP 140

Описание: พระเก่าต้องมีธรรมชาตินะครับ #พระสมเด็จ

พุทธศิลป์ #พระเครื่อง
เป็นพระพิมพ์สี่เหลี่ยม มีรูปพระพุทธประทับในซุ้มระฆังคว่ำ ช่วงเกศขององค์พระจะมีตุ้ม จึงเรียกกันมาว่าเป็นพิมพ์เกศบัวตูม องค์พระโดยรวมจะดูย่อมๆ คล้ายพิมพ์เจดีย์ พระเกศสั้น ไม่จรดซุ้ม พระพักตร์ดูเป็นกึ่งเหลี่ยมกึ่งกลมเหมือนมีการแต่ลบมุมดูเป็นธรรมชาติ ใบหูกางออก ติ่งหูยาวเรียวบางดูพริ้ว เห็นช่วงคอลาดลงมากลืนกับช่วงลำตัว ช่วงบ่าตัดตรง แต่ลาดเอียงเล็กน้อย ช่วงอกผายกว้างและสอบแคบเข้า มีเส้นสังฆาฏิผาดเฉียงโค้งลาดมาทางขวา ประทับในท่าสมาธิ ประทับบนฐาน ๓ ชั้น มีเส้นรองอาสนะบางๆ และเส้นแซมเหนือฐานชั้นกลาง ด้านหลังเรียบ พุทธศิลป์สำคัญ​ แต่ตำหนิในพระเก่าเป็นเรื่องไม่มีจริง เราจะไม่ดูและใช้ไม่ได้ครับ #วัตถุมงคล

เนื้อพระ
เกศบัวตูมองค์นี้เป็นพระการสร้างยุคปลาย ไม่ผ่านการใช้งาน เราจะดูจากสภาพ คราบไขและไอเหงื่อที่เก็บอยู่บนองค์พระ เนื้อพระเซ็ตตัวจากการอบ เนื้อแกร่ง การงอกไม่มาก มีการคลุมผิวทั่ว ความสึกกร่อนไม่สูง พุทธศิลป์ดูคมชัด สวยงาม สมส่วน และใช้เป็นองค์ที่เราเรียนรู้เรื่องมวลสารในพระสมเด็จยุคปลายได้อย่างดีมากๆ เราจะพิจารณาพระองค์นี้โดยผ่านอายุมาประมาณ​ ๑๕๐ ถึง ๑๖๐ ปี

ความแห้ง
การดูเนื้อพระเก่า หลักการก็ยังเหมือนเดิมเพราะธรรมชาติมีกฎและการทำงานตายตัว ที่ผ่านอากาศร้อน เย็น เกิดความชื้นทิ้งคราบไว้ หรือออกซิเดชั่นบนองค์พระ เมื่อมององค์พระแล้วเห็นความแห้งและนวลตาก่อนเป็นอย่างแรก คราบฝ้าบางๆ คือการเกิดผลึกจากสิ่งที่อยู่ภายในองค์พระและออกมาตามความชื้นคลุมผิวพระไว้ ทำให้ผิวขององค์พระภายนอกเกิดความแห้งและดูนวลตา และถ้าส่องเนื้อลึกๆ เราจะต้องเห็นธรรมชาติและความฉ่ำที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะฉะนั้นถ้าเราเห็นว่ามีแต่ความแห้ง หรือฉ่ำไปหมด ไม่มีธรรมชาติเก่าและใหม่ บนสันไม่แห้งและไม่ร่องไม่ฉ่ำ ไม่มีความทับซ้อน ก็ผิดธรรมชาติพระแท้ผ่านอายุ

พระสมเด็จเป็นพระเนื้อผง มีผงผสมมวลสารจากธรรมชาติที่ทั้งย่อยสลายได้และไม่ได้ ตัวเชื่อมเช่นน้ำว่านหรือน้ำมัน ผสมและกดพิมพ์ด้วยมือทีละองค์ จะไม่เกิดการเหี่ยวกร่อน การยุบตัว หรือการเสื่อมสลาเลย ยิ่งผ่านอากาศร้อนเย็น มีการขยายและหดตัวในระดับโมเลกุลทุกวันต่อเนื่องกันมา ๑๕๐​ ปี ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเลย เป็นไปไม่ได้ที่เนื้อพระจะไม่เหี่ยวกร่อนเป็นลอนคลื่นน

ความแห้งและความเหี่ยวของเนื้อพระ สำคัญมากนะครับ เพราะทำให้เกิดความหลากหลายทับซ้อนและซับซ้อนกันอยู่ บางจุดแห้ง บางจุดดูฉ่ำ จุดที่อยู่สูงดูแกร่ง จุดที่อยู่ในร่องดูเหี่ยวกร่อนช้ำๆ เหล่านี้ทำให้เกิดความเป็นมิติ

มวลสาร
เข้าเรื่องมวลสารกันครับ พระสมเด็จวัดระฆัง ไม่ได้มีแค่เนื้อพระ แต่ต้องมีผงวิเศษของสมเด็จโต มีมวลสารหลากหลายทั้งแร่ ว่านยาและมวลสารมงคลต่างๆ การศึกษามวลสารที่สำคัญ คือเราจะไม่ดูว่ามีหรือไม่มีอะไร เราจะไม่ไปกำหนดวิธีการสร้าง ไม่ไปกำหนดสิ่งที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วเมื่อ ๑๕๐ ปีก่อน
ไม่กำหนดว่าพระสมเด็จ วัดระฆังทุกองค์ต้องมีและเห็นได้เหมือนกัน เราจะดูส่ิงที่เกิดขึ้นตอนนี้และเดี๋ยวนี้ว่าธรรมชาติถึงอายุ คือ ๑๕๐ ปีขึ้นไปจนถึง ๑๗๐ ปีหรือไม่

แต่โบราณมา การสร้างพระมีการผสมมวลสารที่เป็นมงคล มวลสารที่มีประโยชน์ ทั้งในกลุ่มแร่รักษา พืชรักษาและสัตว์รักษาต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้ ทั้งร่างกายและจิตใจ
อย่าลืมนะครับ ธรรมชาติของมวลสารอายุเกิน ๑๕๐ ปี คือหัวใจ และมีความสำคัญมากกว่าการท่องจำว่าต้องมีหรือต้องไม่มีอะไร มวลสารที่พบในพระองค์นี้ ค่อนข้างมาก แต่หลักๆ ที่เห็นได้จะมี

ผงวิเศษหรือผงสมเด็จ ก้อนผงสีขาวอมเหลือง นวลๆ
ซิลิก้า หรือแร่ทรายแก้ว เป็นก้อนแร่ใสและขุ่น มีหลายสี และยังมวลสารหลักที่พบได้ในพระกรุ พระเก่าเนื้อดินแทบทั้งสิ้น
ผงดำหรือผงใบลาน พี่ๆ เพื่อนๆ จะเห็เป็นจุดๆ อยู่ในเนื้อ
มวลสารสีแดงอมส้ม
แร่สีแดงอมน้ำตาล
เหล็กไหลหรือฮีมาไทต์ เป็นก้อนแร่สีดำ ดูเรียบ แกร่งและเงา

รวมถึงมวลสารอื่นๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ลองดูกัน มวลสารผ่านอายุทั้งหมดทั้งก้อนแร่และมวลสารที่ย่อยสลายได้จะดูแห้ง เหี่ยว กร่อน ช้ำๆ ไม่เป็นสีสดๆ เกินไป มีแคลไซต์คลุมผิวในหลายจุด บางส่วนอาจจะหลุดร่อน กร่อนย่อยสลายตัว ยุบตัวลงด้านใน ปากและก้นหลุมก็ต้องมีธรรมชาติความเก่าให้เห็น

การคลุมผิว
เมื่อองค์พระเกิดการออกซิเดชั่นกับอากาศ ทำให้เกิดแคลไซต์ค่อยๆ สะสมตัวมานานกว่า ๑๕๐ ปี เกิดเป็นการคลุมผิว เหมือนองค์พระมีเปลือกอีกชั้นคลุมผิวไว้ นั่นคือการดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนั้นพระที่ไม่มีธรรมชาติ ก็คือพระไม่มีอายุ ยิ่งทับซ้อน ยิ่งหลากหลาย แปลว่าธรรมชาติทำงานมานาน
การแยกการคลุมผิวและการแต่งผิว คือการคลุมผิวจะต้องเกิดขึ้นจากในเนื้อ เกิดขึ้นพร้อมกันและสะสมตัว ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นชัดเจน มีมิติ มีความสูงต่ำ หนาบาง ตรงกันข้ามถ้าเป็นพระแต่งผิว จะมีธรรมชาติระดับเดียวหรือสองระดับ และเป็นคราบนอกแต่งเพิ่มเหมือนกัน บางองค์ก็ดูเลอะๆ ส่วนคราบแปลกๆ พระล้างรวมถึงพระที่มีนิทานหลายๆ episode ต้องระวัง ดีก็มี ไม่ดีก็เยอะ เวลาเห็นต้องเอ๊ะ ต้องตั้งคำถามว่าเกิดขึ้นจากอะไร อย่าลืมปิดหูดูพระด้วยนะครับ ใจเย็นๆ ไม่แน่ใจอย่าเพิ่งจ่าย
รับเข้าน่ะง่าย ตอนจะออก จะคืนไม่ง่ายนะครับ

การดูพระสมเด็จแท้ไม่ได้ยากเกินไปครับ หาความแห้งนวลตา พระเก่าเนื้อต้องเหี่ยว มีแคลไซต์เกิดขึ้นทั้งบนเนื้อพระ และบริเวณรอบๆ มวลสาร มวลสารต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่จงใจใส่จนเกินไป และไม่ได้ต้องมีครบทุกสีให้เห็น แต่สิ่งที่ต้องเห็น คือธรรมชาติ เห็นสิ่งที่ต้องเป็นตามอายุ

ไม่มีอะไรที่ศึกษาไม่ได้ ถ้า ๔ มีนาเรียนรู้ได้ ทุกคนก็เรียนรู้ดูพื้นฐานพระเครื่องเป็นได้แน่นอน วางความเชื่อเก่าๆ ลง แล้วใช้ความรู้ แล้วจะไม่โดนหลอก ปิดหู ดูพระ มองตามความเป็นจริง แล้วจะเห็นสิ่งที่คนขายพระซ่อนเอาไว้