Ep.1583 แหวนลายธงชาติย้อนยุคหลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ห้วยกรด สรรคบุรี ชัยนาท รูปกูไม่ต้องเสกก็ขลัง
Автор: Uncle Ting's Garden
Загружено: 2025-11-05
Просмотров: 37
Описание:
Ep.1583 แหวนลายธงชาติย้อนยุคหลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ "นะโมพุทธายะ”
" รูปกูไม่ต้องเสกก็ขลัง รูปกูดีทั้งนั้น "
พระเกจิวาจาสิทธิ์แห่งสรรคบุรี
ยันต์เกราะเพชร หรือ ยันต์หนุมาน มีพุทธคุณโดดเด่นในด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย และคงกระพันชาตรี
"ยันต์หนุมาน" หรือ "ยันต์เกราะเพชร" ในรูปแบบย่อ โดยเฉพาะส่วนที่คล้ายกับ เศียรของหนุมาน (มีลักษณะคล้ายมงกุฎ)
ยันต์ที่มีลักษณะเป็นองค์ประกอบย่อของเทพหรืออักขระที่มีอานุภาพสูงและบรรจุในกรอบลักษณะนี้ มักถูกเรียกว่า:
ยันต์เกราะเพชร (รูปแบบย่อ) เป็นยันต์ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาล ป้องกันภัย แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี (ตรงตามสายวิชาของหลวงพ่อโม)
ยันต์หนุมาน (รูปแบบย่อ) เน้นพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม (หนุมานคล่องตัว ไม่มีวันตาย)
#แก่แล้วส่องพระ
#บ้านสวนลุงติ่งพัทลุง
#แหวนลายธงชาติย้อนยุคหลวงพ่อโมวัดจันทนารามชัยนาท
หลวงพ่อโม ธัมรักขิโต แห่งวัดจันทนาราม จังหวัดชัยนาท เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีเมตตา สร้างวัดจันทนารามขึ้นในปี พ.ศ. 2456 และมีความสนิทสนมกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ท่านมรณภาพอย่างสงบในปี พ.ศ. 2502 ด้วยโรคชราขณะมีอายุ 89 ปี
ประวัติโดยสรุป
นามเดิม: ธัมรักขิโต
วัด: วัดจันทนาราม จ.ชัยนาท
การสร้างวัด: ในปี พ.ศ. 2456 หลวงพ่อโมได้สร้างวัดขึ้นบนที่ดินที่ญาติถวาย โดยสร้างกุฏิ ศาลา และอุโบสถตามลำดับ และตั้งชื่อวัดว่า "วัดจันทนาราม"
ความสัมพันธ์: เป็นสหธรรมมิกที่สนิทสนมกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ และได้เดินทางไปแลกวิชากัน
การมรณภาพ: เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2502 สิริอายุได้ 89 ปี
พิธีฌาปนกิจ: จัดขึ้นในปี พ.ศ. 2503 และมีการสร้างพระเครื่องรูปเหมือนของท่านโดยบรรจุอัฐิไว้ที่ใต้ฐาน
ข้อมูลเพิ่มเติม
ปี 2568
66 ปี การละสังขารของ หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี
"หลวงพ่อโม ธมฺรกขิโต" วัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชัยนาท เจ้าของตะกรุดโทนอันโด่งดัง อัตโนประวัติ หลวงพ่อโม เป็นชาวห้วยกรดโดยกำเนิดเกิดในสกุล "คงเจริญ" เมื่อปีมะเมีย พ.ศ.2413 ณ บ้านบางยายอัน ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 8 ปี สนใจศึกษาตำราโบราณ ท่อง 7 ตำนาน 12 ตำนาน ได้ตั้งแต่เป็นสามเณร
ปรณนิบัติหลวงพ่อเถื่อน
เจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญซึ่งเป็นยอดเกจิอาจารย์ในยุคนั้น (พรรษามากกว่าหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบท ณ
พัทธสีมาวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านท่าน
โดยมีหลวงพ่อเถือน วัดใหม่บำเพ็ญบุญ เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงพ่อคง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อโต วัดวิหารทองเป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษา ณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญได้ศึกษาพระธรรมวินัย ทั้งภาษาไทย และภาษาบาลีเรียนพระปริยัติธรรมเบื้องต้นได้ท่อง 7 ตำนาน 12 ตำนานได้เรียนภาษาขอม
เรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมกับหลวงพ่อม่วงหลวงพ่อเถื่อน และหลวงพ่อคง ที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวห้วยกรดและจังหวัดชัยนาท ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ในยุคนั้น กิตติศัพท์ความเข้มขลังด้านวิทยาคมของหลวงพ่อโต
วัดวิหารทอง เป็นที่กล่าวขวัญของชาวห้วยกรด ท่านจึงได้ไปเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อโต ที่อำเภอสรรคบุรีเรียนรุ่นเดียวกับหลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆรามหลวงพ่อคง เล็งเห็นว่าหลวงพ่อโม มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาดสนใจทางวิทยาคม ยาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณหลวงพ่อคงจึงได้พาหลวงพ่อโมไปฝากกับอาจารย์ของท่าน คือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อปีพ.ศ.2451 หลวงพ่อโม ได้เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข เรียนวิทยาคมตำรายาสมุนไพรและตำราแพทย์แผนโบราณกับหลวงปู่ศุข เป็นเวลา 5 ปี จนกระทั่งในปีพ.ศ.2456 จึงได้เดินทางกลับวัดใหม่บำเพ็ญบุญในขณะนั้น หลวงพ่อเถื่อนซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญได้มรณภาพลง หลวงพ่อคงเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญแทน พ.ศ.2457 ญาติพี่น้องของหลวงพ่อโม ได้ร่วมกันซื้อที่ดินติดวัดร้างเดิมรวมประมาณ 30 ไร่เพื่อสร้างวัดขึ้นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการอานิสงส์ในการถวายที่ดิน ทั้งนี้
ชาวบ้านห้วยกรดให้ความศรัทธาในเรื่องความแก่กล้าทางคุณวิเศษและอาคมของท่านจึงได้นิมนต์หลวงพ่อโมจากวัดใหม่บำเพ็ญบุถเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ "วัดจันทนาราม"หลวงพ่อโมท่านชอบออกธุดงค์เป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละครั้งจะไปเป็นเวลานาน ขากลับท่านจะนำว่านยาเขาละอง ละมั่ง เขากวางมากด้วย ช่วงหลังยังคงมีติดอยู่ที่วัดแต่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหนผมไม่เห็นแล้วจนกระทั่งหลวงพ่อพบเศียรพระพุทธรูปที่มีความงดงามมาก ซึ่งไม่ทราบว่าพบที่ใด ท่านจึงจ้างช่างต่อเศียรพระเข้ากับองค์พระพุทธรูปเก่าดังเดิมที่วัดและอันเชิญเทวดาปกปักรักษา ซึ่งก็คือ หลวงพ่อหิน ในปัจจุบันนั่นเอง
หลวงพ่อโมท่านออกธุดงค์จนไปพบหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพและได้ต่อวิชามีดหมอจากหลวงพ่อเดิม รวมถึงได้ไปพบกับหลวงพ่อเทศและหลวงพ่อวัดพระปรางค์เหลือง ซึ่งหลวงพ่อโมท่านเก่งวิชามีดหมอเป็นอย่างมากหลังหลวงพ่อโมจำวัดที่วัดจันทนารามหลวงพ่อปลื้มและหลวงพ่อโมยังไปมาหาสู่กันเสมอคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อปลื้มท่านมาฉันเพลที่วัดจันทนารามอยู่บ่อย ๆโดยย่นระยะทางมาแหลวงพ่อโมท่านก็ไปวัดสังฆารามเป็นเป็นนิจ
หลวงพ่อเดิมท่านเคยขี่ช้างมาที่วัดจันทนาราม 2 - 3
ครั้งจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่และวัตถุมงคลของหลวงพ่อเดิมยังมีมากที่ ต.ห้วยกรด ซึ่งคนที่มีต่างหวงแหนมากไม่ให้ดูกันง่าย ๆ บ้านห้วยกรดในยุคนั้น ไม่มีถนนหนทาง และเป็นที่ดอนอยู่ในป่าหากมองจากเมืองชัยนาท สรรคบุรี สรรพยาเข้าไปจะเป็นเหมือนป่าดง จึงไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก มิฉะนั้นผู้คนต้องรู้จักหลวงพ่อโมมิใช่น้อย ผู้ชายบ้านห้วยกรดชอบกัดปลา ตีไก่
เป็นอย่างมากกระทั่งสมัยนี้ก็ยังมีบ่อนไก่ขนาดใหญ่ที่ต.ห้วยกรด มีอยู่วันหนึ่งหลวงพ่อท่าน เดินออกมาดูพวกกัดปลากันเด็กวัดของท่านกัดปลาแพ้เขามาเพราะโดนโกงหลวงพ่อโมจึงให้เด็กคนนั้นตัดกระดาษเล็ก ๆ
มาให้...
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: