มีพระบวชใหม่ประกาศ จะล้มหลวงตาสิ้นคิด!

Описание: เนื้อหา *“ธรรมะดุเดือด: ศรัทธาและปัญญาในพุทธศาสนา”* มาจากวิดีโอยูทูบที่พระภิกษุรูปหนึ่ง *“หลวงตาสิ้นคิด”* หรือ *“พระสิ้นคิด”* กำลังสนทนาธรรมกับผู้ติดตามจากหลากหลายสถานที่ รวมถึงผู้ที่มาจากต่างประเทศ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ความเชื่อและการปฏิบัติทางพุทธศาสนาที่ผิดเพี้ยนไปจากหลักคำสอนที่แท้จริง โดยเฉพาะการพึ่งพาวัตถุ ไสยศาสตร์ และการยึดติดกับพิธีกรรม แทนที่จะมุ่งเน้นการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์และพัฒนาปัญญา หลวงตายังเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพระภิกษุในการสืบทอดพระศาสนาผ่านการปฏิบัติ ไม่ใช่เพียงการสร้างวัตถุ หรือการแก้ปัญหาให้ผู้อื่น แต่เป็นการแก้ไขตนเอง หลวงตายังได้พูดถึงการตีความพระไตรปิฎก และประวัติศาสตร์พุทธศาสนาเพื่อให้เกิดปัญญาและมุมมองที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น.
คลิปบันทึก 25 มิย 67
การศึกษาประวัติศาสตร์และปัญญาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้าใจในพุทธศาสนาด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้:

*ความสำคัญของปัญญา:*

*พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา:* พระธรรมในพุทธศาสนาเน้นที่ปัญญา ไม่ใช่การเคารพวัตถุ เช่น ต้นไม้หรือเจดีย์ แต่เน้นที่การปฏิบัติบูชา ซึ่งคือการปฏิบัติธรรม
*ป้องกันความเข้าใจผิดและการกลายเป็นไสยศาสตร์:* การขาดปัญญาอาจทำให้พุทธศาสนากลายเป็นไสยศาสตร์หรือเทวนิยม ที่เน้นการอ้อนวอน วิงวอน ร้องขอ หรือเชื่อในของขลังและพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่พระพุทธเจ้าสอน
*ส่งเสริมการปฏิบัติที่ถูกต้อง:* พระพุทธเจ้าไม่ได้สรรเสริญนักบวชเพียงเพราะการบวช แต่สรรเสริญนักปฏิบัติ บุคคลใดที่เป็นอยู่โดยชอบโลกจะไม่ว่างจากพระอรหันต์ การมีปัญญาจะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์และพัฒนาตนเอง ไม่ใช่การบวชเพื่อแก้ไขหรือทำลายผู้อื่น
*การประยุกต์ใช้ธรรมะอย่างเหมาะสม:* พระพุทธเจ้าทรงเป็นเหมือนแพทย์ใหญ่ที่ให้ยาที่เหมาะสมกับโรคของผู้ป่วยแต่ละคน ธรรมะจึงมีหลายระดับ (เช่น อนุบาล ประถม มัธยม) การมีปัญญาช่วยให้เข้าใจว่าควรสอนหรือปฏิบัติธรรมะแบบใดให้เหมาะสมกับบุคคล สถานที่ และเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่นำธรรมะไปใช้จับผิดผู้อื่น
*ช่วยให้เกิดสติและไม่หลงงมงาย:* การพูดธรรมะควรเป็นไปเพื่อให้เกิดสติและปัญญา เพื่อให้ได้รับประโยชน์ ผู้มีปัญญาจะสามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจได้ดีกว่าคนที่ไม่ใช้สติปัญญา และไม่หลงงมงาย

*ความสำคัญของประวัติศาสตร์:*

*เข้าใจที่มาที่ไปของพระไตรปิฎกและศาสนา:* การศึกษาพระไตรปิฎกควรควบคู่ไปกับการศึกษาที่มาหรือประวัติศาสตร์ของพระไตรปิฎกด้วย เพื่อให้เข้าใจว่าพุทธศาสนาหมดไปจากอินเดียเมื่อใดและด้วยเหตุผลใด หากไม่รู้จักที่มาที่ไปของสิ่งที่นับถือ จะถือว่า "โง่มาก"
*การเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต:* ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าเหตุใดพุทธศาสนาในอินเดียจึงสูญสิ้นไป เช่น การที่ไม่มีภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาหลงเหลืออยู่ แม้จะมีเจดีย์หรือต้นโพธิ์ที่ยิ่งใหญ่ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการยกตัวอย่างการที่อาณาจักรต่างๆ โดนตีแตกเพราะนักบวชพึ่งพามนต์ขลังแทนการเตรียมการป้องกัน
*ทำความเข้าใจวิวัฒนาการและการตีความ:* การสืบทอดพุทธศาสนามาจากหลายแหล่ง (เช่น ลัทธิลังกาวงศ์) และมีการแปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีเป็นสันสกฤต สิงหล อังกฤษ และไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนหรือ "มั่ว" ได้ การศึกษาประวัติศาสตร์และที่มาช่วยให้สามารถตั้งข้อสังเกตและวิเคราะห์เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น เช่น คำถามเรื่อง "5 มาสกเท่ากับ 1 บาท" ซึ่งเป็นค่าเงินที่ไม่ได้มีในสมัยพุทธกาลของอินเดีย การตั้งข้อสังเกตนี้ช่วยให้เกิดสติปัญญาและมุมมองที่หลากหลาย

โดยสรุปแล้ว ปัญญาช่วยให้เข้าใจแก่นแท้ของธรรมะและการปฏิบัติที่ถูกต้อง ส่วนประวัติศาสตร์ช่วยให้เข้าใจบริบท พัฒนาการ และความผิดพลาดในอดีตของพุทธศาสนา ทำให้สามารถตีความและประยุกต์ใช้หลักธรรมได้อย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์สูงสุด.
คุณภาพระดับ FHD 2K และ 4K จากช่องยูทูป "พระสิ้นคิด"
สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
   / @prasinkid  
ติดต่อแอดมิน 083-929-1932 หรือ Facebook : ณัฐวรรธน์ ปากวิเศษพงษ์