สั่งสอบ ตร.ทำคดี 'เสี่ยเบนท์ลีย์' ตัวละครใหม่โผล่ อ้างเป็นอธิบดี พาไปส่ง รพ.-ทำเอกสาร-พากลับบ้าน

Описание: จากกรณี กลางดึกคืนวันที่ 7 ม.ค. เวลาประมาณ 00.35 น. ต่อเนื่องวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถยนต์หรู เบนท์ลีย์ สีเทา ขับมาด้วยความเร็วสูง แซงซ้าย แล้วเบี่ยงขวาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งเข้าชนท้ายปาเจโร สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลาง (มีผู้โดยสารมากันทั้งครอบครัว รวม 6 คน รวมเด็กชายอายุ 4 ขวบ) จนปาเจโรเสียหลักหมุนพุ่งชนขอบทางติดช่องทางขวาสุด ซ้ำมีรถดับเพลิงอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ 2 ราย ที่กำลังมุ่งหน้าไปช่วยเหลือผู้ติดค้างเหตุเพลิงไหม้เบรกกะทันหันจนพุ่งชนซ้ำ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย

รถยนต์คู่กรณีได้รับความเสียหาย คนขับคล้ายเมาสุรา เหตุเกิดบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร จากถนนสุขสวัสดิ์มาประมาณ 9-10 กม. มุ่งหน้าดินแดง โดยมีรายงานว่าคนขับคือ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซื้อขายที่ดิน ทำตลาดสด และขายวัสดุก่อสร้าง เคยเป็นข่าวว่าเป็นนายทุนให้กับพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง

วานนี้ (10 ม.ค. 66) ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามกับพยานรายหนึ่ง ที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ เป็นผู้บันทึกคลิปและภาพนิ่งในหลายหลายส่วนไว้

เมื่อมีการตรวจสอบเรื่องของระยะเวลา ทำให้พบว่าข้อมูลที่ทางโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและประชาชนนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในหลายประเด็น

โดยนางสาวเอ (นามสมมุติ) บอกว่า ตนเองได้รับแจ้งว่า คนรู้จักประสบอุบัติเหตุบนทางด่วน เมื่อตนเดินทางไปถึง ก็พยายามจะหาคู่กรณีที่เป็นต้นตอของอุบัติเหตุแต่ไม่พบ ก่อนที่กู้ภัยทางด่วนเดินมากระซิบบอกว่า ตอนนี้คนขับรถขึ้นแท็กซี่ออกจากจุดเกิดเหตุไปแล้ว ให้ลงไปดูที่บริเวณเชิงทางลงทางด่วน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก ตนเองจึงติดตามไป ก่อนจะพบว่ามีกลุ่มอาสาสมัครดับเพลิงช่วยกันล้อมรถแท็กซี่คันหนึ่งไว้ เมื่อตนไปถึงก็พบว่าผู้ที่อยู่บนรถแท็กซี่คือผู้ขับรถยนต์หรูคันที่เป็นต้นตอของอุบัติเหตุ

โดยกลุ่มอาสาสมัครดับเพลิงได้ยืนยันให้แท็กซี่ช่วยพาตัวผู้ขับรถยนต์หรูไปที่ สน.ทางด่วน 1 โดยมีการขับรถกู้ภัยและรถดับเพลิงประกบข้างไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองสังเกตเห็นว่าเป็นการช่วยกันเองของกลุ่มอาสาสมัครดับเพลิง โดยไม่มีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่การทางพิเศษมาเป็นผู้ช่วยเหลือพาตัวผู้ขับขี่รถไปส่งที่ สน. แต่อย่างใด

ซึ่งตนเองยังได้บันทึกภาพของรถสไลด์ ที่มาทำการเคลื่อนย้ายรถของคู่กรณีออกจากจุดเกิดเหตุไว้ได้แต่ช่วง 01.41 น. ก่อนที่ตนเองและกลุ่มอาสาสมัครดับเพลิงจะเดินทางมาถึงที่ สน.ประมาณ 01.51 น. แต่ตำรวจที่อยู่ที่ สน.ไม่ยอมให้เข้าไปในพื้นที่ของโรงพัก โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจให้ทุกคนเข้าไปในตัวโรงพัก ให้รออยู่บริเวณด้านนอก

ตนเองได้พยายามสอบถามทางตำรวจว่า เหตุใดจึงไม่ให้เข้าไปในโรงพัก เพราะทั้งหมดเป็นคู่กรณีกัน ควรจะได้รับการเข้าไปรอพบกับพนักงานสอบสวน และเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการทางคดี

แต่ทางตำรวจที่ทำหน้าที่เข้า สน. เป็นยศสิบโท แจ้งว่าต้องให้ยศสูงกว่าเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งทั้งหมดต้องรออยู่บริเวณหน้าโรงพัก ก่อนที่ในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวนจะเดินทางมาถึง และเริ่มเข้าขั้นตอนการดำเนินการทางคดีตามแต่ละฝ่าย

ซึ่งในขณะที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ มีน้องเดินไปถ่ายคลิปผู้ขับรถหรู ขณะกำลังนั่งเคี้ยวหมากฝรั่งคุยโทรศัพท์ตามที่ปรากฏในสื่อ ซึ่งเมื่อตรวจสอบเวลาในการบันทึกคลิป ปรากฏเวลา 02.52 น. ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเอกสาร และยังไม่ได้มีการตรวจแต่อย่างใด

ต่อมา มีชายคนหนึ่งเดินทางมาพร้อมกับลูกน้องและภรรยา โดยอ้างว่าเป็นอดีตตำรวจยศสูง และเป็นข้าราชการระดับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะขอมาดำเนินการเรื่องนี้ และมีการรับตัวผู้ขับรถยนต์หรู ขึ้นรถเบนซ์คันดังกล่าวไปส่งที่ รพ.ตำรวจ โดยพนักงานสอบสวนได้ให้นายดาบคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไป

ก่อนที่จะเดินทางมาถึงที่ รพ.ตำรวจ ในช่วงเวลาประมาณ 04.35 น. และเพื่อนของผู้ขับที่อ้างว่าเป็นอธิบดีพร้อมภรรยา เป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารในการส่งตรวจ ไม่ใช่ตำรวจของทาง สน.ทางด่วน 1 ก่อนที่ทั้งหมดจะเสร็จสิ้น และตนเองออกจากโรงพยาบาลตำรวจในช่วงเวลาประมาณ 05.30 น.

ส่วนตัวยอมรับว่าจากที่ได้เห็นพฤติกรรมของทางคู่กรณีและการดำเนินการของทางตำรวจ รู้สึกผิดปกติในหลายหลายส่วน เช่น

ไม่ยอมให้ทางคู่กรณีขึ้นโรงพักตั้งแต่แรกต้องให้รอพนักงานสอบสวนทั้งทั้งที่เป็นโรงพักที่ประชาชนสามารถเข้าได้
เหตุใดถึงต้องส่งตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ
เรื่องที่มีบุคคลที่สามมาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนและเป็นผู้ดำเนินการเคลื่อนย้ายตัวผู้ขับขี่ไปที่โรงพยาบาลเอง โดยตำรวจไม่ใช่เป็นคนดำเนินการเคลื่อนย้าย
ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการทางเอกสาร เพราะคนที่ดำเนินการคือทางอธิบดีคนดังกล่าวและภรรยา
ในช่วงที่มีการตรวจกลุ่มพวกตนกลับไม่ได้รับคำตอบจากทางนายดาบที่ไปที่โรงพยาบาลด้วย เพราะช่วงเดินทางมีการคลาดกับตัวผู้ขับขี่รถหรู ก่อนจะมาพบว่ามีการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว อธิบดีคนดังกล่าวได้แจ้งให้ตำรวจนายดาบคนนี้กลับได้เลย
ตัวผู้ขับขี่รถยนต์หรูได้กลับไปกับอธิบดีที่มากับรถเบนซ์ไป

ซึ่งตนเองยังได้พยายามกลับมาค้นหาข้อมูลของอธิบดีคนนี้ แต่เมื่อเช็กตามเว็บของหน่วยงานที่มีการอ้างถึง กลับไม่พบข้อมูลว่าเป็นข้าราชการในสังกัดดังกล่าวแต่อย่างใด ตลอดระยะเวลาที่ตนเองอยู่ที่ สน. และได้มีการพูดคุยกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีกับคำพูดของพนักงานสอบสวนที่ใช้คำพูดรุนแรงกระแทกเสียง



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 11 มกราคม 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook :   / morningnewstv3  
Twitter :   / morningnewstv3  
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

#3PlusNews #Ch3Plus #ข่าวช่อง3