หลวงพ่อฤๅษีลิงดำสัมผัสได้จริงทั้งเปรต อสุรกาย วิญญาณ เทวดาและพรหม

Описание: หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ หรือที่เรารู้จักกันในนามพระราชพรหมยานแห่งวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านวิปัสสนาและในด้านการเข้าฌานสมาบัติอย่างลึกซึ้ง จนสามารถเข้าถึงภพภูมิต่าง ๆ ได้ด้วยญาณทัสสนะที่เกิดจากการฝึกฝน ท่านไม่ได้อวดอ้าง แต่เล่าไว้เป็นธรรมะ เป็นอุบายให้ผู้ปฏิบัติรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่มนุษย์ ยังมีภพภูมิอื่นที่ท่านสัมผัสได้จริงทั้งเปรต อสุรกาย วิญญาณ เทวดาและพรหม

เรื่องราวที่ท่านเล่าให้ฟังจึงไม่ได้เป็นเพียงนิทานหรือเรื่องเล่าชวนขนลุก แต่คือประสบการณ์ที่มากด้วยปัญญา เตือนใจ เตือนจิต และเปิดมุมมองที่ลึกไปกว่าตาเห็น หูได้ยิน

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อได้ออกธุดงค์ไปในป่าห่างไกล ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ คืนวันผ่านไปพร้อมกับการภาวนาอย่างต่อเนื่อง แต่ค่ำคืนหนึ่งในช่วงที่ท่านนั่งสมาธิอยู่ ได้ยินเสียงคล้ายคนเดินอยู่รอบกระท่อม เสียงนั้นดังแปลก ราวกับเป็นฝีเท้าที่ลากผ่านพื้นอย่างหนัก ท่านยังคงนั่งนิ่งไม่ได้ลืมตา และไม่ได้หวั่นไหว เพียงตั้งสติและภาวนาว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ

เมื่อจิตนิ่ง สงบจนแนบแน่น ท่านเห็นด้วยญาณว่ามีวิญญาณหนึ่งเป็นผู้หญิงร่างผอมสูง ผิวดำกร้าน ผมยาวรุงรัง ใบหน้าแห้งเหี่ยวเหมือนไร้ชีวิต ดวงตาเต็มไปด้วยความหิวโหยและอาฆาต วิญญาณนั้นไม่พูดอะไร เพียงยืนจ้องตรงมาที่ท่านเหมือนรออะไรบางอย่าง

ท่านจึงกล่าวขึ้นเบา ๆ ว่า เจ้าต้องการอะไร วิญญาณนั้นตอบว่า ฉันตายแล้ว ฉันหิวเหลือเกิน ไม่มีใครอุทิศส่วนบุญให้ฉันเลย

หลวงพ่อจึงถามว่า ตอนเป็นคนเคยทำบาปอะไรไว้หรือไม่ วิญญาณตอบว่า เคยด่าพ่อแม่ ขี้โมโห ปากร้าย ชอบทะเลาะเบาะแว้ง และไม่เคยทำบุญเลยแม้แต่ครั้งเดียว

หลวงพ่อไม่ตำหนิ แต่กลับพูดด้วยความเมตตาว่า งั้นวันนี้ฉันจะแผ่เมตตาให้ ขอให้เจ้ารับบุญนี้ไว้ แล้วเจ้าจะพ้นจากความทุกข์

เมื่อท่านแผ่เมตตาในใจ ด้วยจิตแน่วแน่ตั้งมั่น เพียงครู่เดียววิญญาณนั้นก็ร้องไห้แล้วค่อย ๆ จางหายไปในแสงสว่าง ท่านกล่าวไว้ภายหลังว่า วิญญาณที่ได้รับบุญอย่างแท้จริง จะไม่อยู่ต่อ เพราะบุญเป็นเครื่องผลักดันให้เปลี่ยนภูมิได้จริง

อีกเรื่องหนึ่งในคราวที่หลวงพ่อธุดงค์ในเขาลึก ท่านพักอยู่ที่กระท่อมริมลำธาร ป่ารอบข้างเงียบกริบ คืนหนึ่งในขณะกำลังจะหลับ ท่านได้กลิ่นเหม็นแปลก ๆ ลอยมากับลม กลิ่นนั้นไม่เหม็นแบบซากศพ แต่เป็นกลิ่นที่น่าหวาดหวั่นลึก ๆ เหมือนมีพลังงานบางอย่างอยู่ใกล้ ท่านจึงเข้าสมาธิเพื่อดูว่าคืออะไร

ในญาณภาพ ปรากฏเปรตตนหนึ่งรูปร่างแปลกสูงเกินคน ลิ้นยาว หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว เสียงแหบแห้งพูดว่า ช่วยด้วย ฉันทรมาน ฉันไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ หลวงพ่อจึงถามว่า เคยทำบาปอะไรไว้ เปรตบอกว่า เคยเป็นนักเลงคุมบ่อน ชอบหลอกลวงคนอื่นให้เล่นพนัน สูบเลือดคนทั้งชีวิต จนตายแล้วก็ถูกทรมาน

หลวงพ่อไม่ตัดสิน เพียงกล่าวว่า การที่เจ้ามีจิตสำนึกแม้ช้าไปก็ยังดีกว่าไม่รู้เลย หากเจ้าต้องการพ้นทุกข์ จงตั้งจิตขอขมาพระพุทธเจ้า ขออโหสิกรรมต่อผู้ที่เคยหลอกลวง และตั้งใจรับส่วนบุญจากข้าพเจ้าในคืนนี้

ท่านแผ่เมตตาให้ แล้วกล่าวบทสวดแผ่เมตตาโดยเฉพาะ ตั้งใจว่าให้เปรตตนนั้นพ้นจากทุกข์ในเบื้องต้น และมีโอกาสได้รับบุญเพิ่มเติมจากผู้คนที่ฟังเรื่องนี้ในภายหลังด้วย

หลังจากนั้นเปรตค่อย ๆ ย่อร่างลงและหายไปในความมืด แต่ไม่มีความน่ากลัวอีกต่อไป มีเพียงความสงบนิ่งปกคลุมอยู่รอบตัวท่าน

หลวงพ่อเล่าว่า แม้เปรตจะดูน่ากลัว แต่หากจิตเรามั่นคง เมตตาเราบริสุทธิ์ สิ่งเหล่านั้นไม่มีอำนาจเหนือเราเลย

ไม่เพียงเท่านี้ ครั้งหนึ่งหลังจากกลับจากธุดงค์ ท่านพบว่ามีบางอย่างติดตามกลับมาที่วัดท่าซุง หลวงพ่อไม่ได้บอกทันที แต่บางวันลูกศิษย์ฝันร้าย บางคนได้กลิ่นเน่าเหม็นในห้องธรรม

ท่านจึงเข้าสมาธิเพื่อตรวจดู แล้วพบว่าเป็นเปรตตนหนึ่งที่อยู่ในป่า แต่ติดตามมาด้วยเพราะรับบุญไม่เต็ม ท่านจึงสั่งให้จัดสังฆทานและให้ลูกศิษย์อุทิศส่วนกุศลไปยังวิญญาณนั้นโดยตรง หลังจากนั้นบรรยากาศในวัดกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม

อีกครั้งหนึ่งที่น่าประทับใจ คือเหตุการณ์ที่ท่านเจอเทวดาขณะธุดงค์ในป่า ท่านนั่งสมาธิอยู่ในกระท่อมแล้วเห็นแสงสว่างนวลตาปรากฏขึ้น เทวดาหลายองค์มาทำความเคารพท่านและกล่าวว่า ขออยู่รับฟังธรรมของท่าน ท่านถามว่า เหตุใดจึงมา เทวดาตอบว่า เพราะท่านมีศีลบริสุทธิ์และภาวนาอย่างต่อเนื่อง จึงมาขออนุโมทนาและขอคุ้มครอง

หลวงพ่อกล่าวธรรมะสั้น ๆ ว่า อย่าหลงฤทธิ์ อย่าหลงยศ ให้หลงบุญ หลงธรรมจะดีกว่า เทวดาทุกองค์ต่างพนมมือและจากไปอย่างสงบ

หลวงพ่อสรุปว่า สิ่งลี้ลับ วิญญาณ ภพภูมิ ล้วนเป็นจริง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือจิตของเรา ถ้าจิตตั้งมั่น มีสติ มีเมตตา รู้คุณพระรัตนตรัย ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลย ผีกลัวคนดี ผีกลัวเมตตา ผีกลัวศีล ผีกลัวธรรม

และที่สำคัญที่สุด คือการแผ่เมตตาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ จะสามารถช่วยเหลือวิญญาณทั้งหลายให้พ้นทุกข์ได้จริง แม้เขาจะไม่ได้มาขอ แม้เราไม่รู้จักชื่อเขา ขอแค่จิตเราสะอาด เขาก็รับได้จริง

ธรรมะของหลวงพ่อจึงไม่ได้แค่เล่าเรื่องผีให้กลัว แต่เล่าให้เข้าใจภพภูมิ เล่าให้เห็นว่าความดีความชั่วมีผลจริง และใจคนเราสามารถเปลี่ยนโลกของผีได้ หากเราตั้งใจส่งความเมตตาออกไปอย่างแท้จริง