แผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม สภาเกษตรกรแห่งชาติ จ.มหาสารคาม

Описание: จังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดเป็นเมืองแห่ง “เกษตรกรรมยั่งยืน นําภูมิปัญญาสรางคุณค่า พัฒนาการค้าการลงทุน สู่สังคมมีสุข ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี” ซึ่งมีจุดเน้นการพัฒนาในภาคการเกษตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยสินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว โคกระบือ มันสำปะหลัง และอ้อย ในภาพรวม การดําเนินงานในห้วงที่ผ่านมา ด้านการเกษตรได้เน้นการพัฒนาเพิ่มผลผลิตของพืชเศรษฐกิจของจังหวัดให้ได้มาตรฐาน ส่งเสริมการผลิตพืชเศรษฐกิจของจังหวัด การสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกร หากแต่ปัจจุบันยังประสบปัญหาในด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นส่งผลให้ เกษตรกรมีรายได้ ไม่พอกับรายจ่าย รวมทั้งระบบชลประทานยังไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง และยังพบปัญหาดินเค็มทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากดินได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาในด้านการขาดอุตสาหกรรมแปรรูปด้านการเกษตร โดยส่วนใหญ่ยังเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรขั้นต้น ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มตํ่าประกอบกับการลงทุนใหม่มีน้อย จึงมีแหล่งรองรับแรงงานน้อย ซึ่งความต้องการของเกษตรกรในเรื่องนี้ยังขาดองค์ความรู้ในการผลิต ขาดเทคโนโลยีที่นํามาส่งเสริมการผลิต การบริหารจัดการดิน การกําจัดศัตรูพืช ขาดการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์เชิงพาณิชย์ ต้นทุนในการผลิตสูง การบริหารจัดการน้ำไม่มีประสิทธิภาพ
การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม พ.ศ.2568-2573 สภาเกษตรกรแห่งชาติ และสภาเกษตรกรจังหวัด จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การสร้างความยั่งยืนในภาคการเกษตร การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร การเสริมสร้างความร่วมมือและการรวมกลุ่มของเกษตรกร การพัฒนาตลาดและการเข้าถึงตลาด การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเสริมสร้างความรู้และทักษะของเกษตรกร ซึ่งในปัจจุบันพบว่าจุดเด่นที่สำคัญลำดับแรกของภาคเกษตรกรรมไทย คือ ประเทศไทยมีผู้นําเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรที่น้อมนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบ ในการพัฒนาการเกษตร ในบริบทของพื้นที่ประเทศไทย ส่งผลให้เกิดชุมชนเข้มแข็งในหลายพื้นที่ อีกทั้งเกษตรกรไทยจำนวนมากมีองค์ ความรู้และศักยภาพในการผลิตสินค้าด้านการเกษตร ที่หลากหลาย มีภูมิปัญญาท้องถิ่นและปราชญ์เกษตรจำนวนมาก มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นทางการเกษตรกรรมจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน และการจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฉบับนี้ จึงมีความจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างมาก อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องมือเชิงกระบวนการและกลไกที่จะสร้างฐานศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาและเสริมความแกร่งให้แก่ภาคเกษตรกรรมของประเทศ ที่จะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตการสร้างความยั่งยืนทางเกษตร การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร การสร้างเครือข่าย การรวมกลุ่มของเกษตรกร การพัฒนาตลาดการส่งออก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมทั้งสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในบริบทและวิถีใหม่ของโลกต่อไป