เปิดใจ 'เสี่ยเบนท์ลีย์' ไม่ได้เมา แจงไม่เป่า-เคี้ยวหมากฝรั่ง สุดท้ายโดนเมาแล้วขับ วาง 1 เเสน รอดคุก
Автор: เรื่องเล่าเช้านี้
Загружено: 2023-01-11
Просмотров: 65466
Описание:
'เสี่ยขับเบนท์ลีย์' เปิดใจ ยันไม่ได้เมา ย้ำไม่ได้ดื่มไวน์ตอนขับ เพราะเป็นขวดเปล่าของเพื่อนที่ชอบสะสมวางไว้บนรถ ปัดปฏิเสธเป่าแอลกอฮอล์ มองตรวจเลือดชัวร์กว่า ส่วนปมเคี้ยวหมากฝรั่ง หวังลดความอยากบุหรี่ ลั่นไม่มีคนที่อ้างเป็นอธิบดี DSI มาพาไปตรวจเลือดเอง ส่วนกรณีพาหญิงคนสนิทขึ้นแท็กซี่หนี เพียงต้องการไปทำแผล รพ. ลั่นตนตกเป็นจำเลยสังคม มีใครให้โอกาสบ้าง อย่าตัดสินใครก่อน วอนให้ดูที่การกระทำ
ความคืบหน้ากรณีเสี่ยนักธุรกิจขับรถเบนท์ลีย์ ซิ่งรถบนทางด่วนไปเฉี่ยวชนกับรถปาเจโร่ ที่ขับอยู่เลนกลาง ทำให้รถปาเจโร่เสียหลักไปชนกับรถดับเพลิงที่วิ่งอยู่เลนขวา ขณะกำลังรีบไปช่วยเหตุเพลิงไหม้ย่านอุดมสุข เหตุเกิดช่วงกลางดึกของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ นักธุรกิจและนายทุนพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งคนขับรถเบนท์ลีย์ในวันเกิดเหตุ
โดย นายสุทัศน์ คนขับเลนท์ลีย์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้เมา ซึ่งปกติเป็นคนไม่ดื่มอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน ทำให้ดื่มเครื่องดื่มที่อัดแก๊สหรือเป็นกรดไม่ได้ และตนไม่ได้ดื่มมาสักพักใหญ่แล้วเพื่อรักษาโรค โดยในวันนั้นในโต๊ะอาหารมีเพราะเพื่อน ๆ ไปด้วยกัน จึงสั่งแชมเปญมาดื่ม 1 ขวด แต่ก็ยอมรับว่าดื่มเพียงไป 2 แก้ว แต่เพียงแก้วเล็ก ๆ พอเป็นพิธีเท่านั้น ซึ่ง 2 แก้วนี้ ใช้เวลาดื่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. จนถึง 22.00 น.
ส่วนขวดไวน์ที่เจอในรถเบนท์ลีย์หลังเกิดเหตุนั้น นายสุทัศน์ เล่าว่า เป็นขวดไวน์ที่ไม่ได้ดื่มในวันนั้น แต่ก่อนหน้านี้ตนไปกับเพื่อน 4 คน โดยแฟนเพื่อนอยากได้ขวดไวน์นี้ เพราะเป็นไวน์นำเข้าจากต่างประเทศ และเป็นขวดไวน์เปล่า โดยเพื่อนเป็นคนเอามา และลืมทิ้งไว้บนรถของตัวเองเป็นเวลาประมาณกว่า 1 สัปดาห์แล้ว พร้อมย้ำว่าวันนั้นไม่ได้ดื่มไวน์ด้วย
เมื่อถามถึงประเด็นการปฏิเสธเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ คนขับเบนท์ลีย์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธเลย แต่การตรวจเลือดชัวร์กว่า อีกทั้งวันเกิดเหตุมีพนักงานสอบสวนมีอยู่คนเดียว แล้วมีกู้ภัยมาประมาณกว่า 30 คน อีกทั้งตนเจ็บหน้าอก หายใจไม่ออกอีกด้วยจึงมองว่าไปตรวจเลือดเพื่อความชัวร์ ขณะเดียวกันเรื่องเคี้ยวหมากฝรั่งตนเป็นคนที่ติดบุหรี่ ตอนนั้นไม่ได้สูบบุหรี่ จึงเปลี่ยนวิธีเป็นการเคี้ยวหมากฝรั่งแทน เพื่อลดความอยาก ไม่ได้เคี้ยวเพื่อลดกลิ่นหรือปริมาณแอลกอฮอล์เลย
เมื่อเคี้ยวหมากฝรั่งเสร็จ ฝั่งกู้ภัยเห็นตนเคี้ยวหมากฝรั่ง จากนั้นอยู่ดี ๆ ฝั่งกู้ภัย 1 คน ก็มาเตะตนเต็มแรงไป 1 ครั้ง ตอนนั้นยืนยันว่ายืนอยู่เฉย ๆ อีกฝ่ายก็มาเตะ ไม่ได้ไปพูดจายียวนหรืออะไรเลย ซี่งโดนเตะตนหลังบิด ถึงขั้นต้องมากายภาพบำบัด
คนขับเบนท์ลีย์ ตั้งคำถามกลับว่า "ผมถามนิดนึงว่า ผมอายุ 50 กว่า เกือบ 60 ถ้าผมสวนไป คิดว่าอีกสิบมือสิบเท้าเขาวางไว้เฉย ๆ หรือไม่" ตนจึงเดินหลบออกมานั่งรอ แล้วโทรศัพท์หาเพื่อนว่ามารับหน่อย มีเรื่องที่โรงพัก มาเป็นเพื่อนหน่อย ตนอยู่คนเดียว เพื่อนจึงมารับแต่มาตอนไหนไม่ทราบ ส่วนประเด็นที่มีชายมาอ้างเป็นอธิบดี DSI มาพาไปตรวจเลือด คนขับเบนท์ลีย์ ยืนยันว่า ไม่มี และไม่รู้จักกับอธิบดี DSI
ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกต ว่าหลังเกิดเหตุพยายามขึ้นแท็กซี่หนี คนขับเบนท์ลีย์ ชี้แจงว่า ตอนอยู่บนทางด่วน หน่วยกู้ภัยมาที่เกิดเหตุ แล้วได้มาขอดูใบขับขี่ ตนจึงได้ให้ใบขับขี่ไว้ให้
หลังจากนั้นตนอยากไปนั่งพัก อยากไปเข้าห้องน้ำ เพราะคิดว่ารถคว่ำบนทางด่วน แต่ยังไม่ทำอะไรสักที จึงได้บอกกู้ภัยว่า พี่ พาผมไปส่งที่ สน.ก่อนได้ไหม จึงนั่งรถมาที่ สน. เข้าพบร้อยเวร ซึ่งขณะนั้นตนและผู้หญิงที่มาด้วยก็บาดเจ็บเพิ่งไปทำจมูกมาและมีเลือดไหล จึงคิดว่าจะไปโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทก่อน เดี๋ยวกลับมา
พอขึ้นรถแท็กซี่ ฝั่งกู้ภ้ยก็มาล้อมบอกว่าตนจะหนี ผมขอถามว่า "ใบขับขี่อยู่กับพนักงานทางด่วน บัตรประจำตัวประชาชนอยู่กับร้อยเวร รถผมอยู่ตรงนั้น ผมจะหนีไปไหน แล้วผมรู้ว่าไม่มีคนตาย ทุกคนเดินได้หมด เป็นพี่จะหนีให้โดนออกหมายจับหรอ หน่วยกู้ภัยเขายังไปทำแผล ทุกคนไปทำแผลหมด แล้วผมไม่มีสิทธิไปทำแผลหรอ ถ้ามันมีคนตาย 10 คนก็อีกเรื่องนึงถูกไหม นี่ไม่มีคนตาย ทุกคนเดินกันปกติ ไม่มีใครเป็นอะไร"
ทีมข่าวจึงถามย้ำว่า พอเราคิดว่าไม่มีใครเสียชีวิตก็เลยขออนุญาตไปทำแผลก่อนใช่หรือไม่ คนขับเบนท์ลีย์ ย้ำว่า มันไม่มีอะไรเลย ชนไม่มีใครเป็นอะไรเลย ทุกคนออกมาพูดได้ปกติ จะให้ผมทำยังไง อีกทั้งนั่งรอที่โรงพักก็ไม่มากันสักที ก็เลยขอไปให้หมอดูอาการสักครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาคุยเรื่องคดี และเรื่องการเยียวยา
เมื่อถามว่าหลังจากผลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดออก พบว่าอยู่ที่ 10.73 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คิดเห็นอย่างไรบ้าง คนขับเบนท์ลีย์ กล่าวว่า "ก็ผมดื่มเท่านั้น ผมยังไม่รู้เลยว่าผลแอลกอฮอล์ออกมาเท่าไหร่ นักข่าวยังพากันรู้ก่อนอีก ส่วนตัวเพิ่งมารู้ช่วงบ่ายวันที่ 11 ม.ค.66"
คนขับรถเบนท์ลีย์ กล่าวถึงกรณีตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า วันที่ 11 ม.ค.66 พนักงานสอบสวนนัดตนไปแจ้งข้อกล่าวหา แล้วฝากขัง จากนั้นจึงยื่นประกันและได้รับการประกันตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/crime/mornin...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 12 มกราคม 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
#3PlusNews #Ch3Plus #ข่าวช่อง3
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: