AP LAW 22 "การเรียกร้องค่าเสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 44/1 คืออะไร"
Автор: AP Law Office Co., Ltd.
Загружено: 2023-04-19
Просмотров: 12417
Описание:
AP LAW 22 "การเรียกร้องค่าเสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 44/1 คืออะไร"
.
ผู้เสียหายในคดีอาญา และได้ฟ้องคดีอาญาด้วยตนเองหรือเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดี สามารถฟ้องคดีแพ่งพร้อมกับคดีอาญาได้เลย โดยคดีประเภทนี้จะเรียกว่า คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
.
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาจะเป็นคดีแพ่งที่มีมูลเหตุมาจากการกระทำความผิดทางอาญาในฐานความผิดต่าง ๆ โดยการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาจะฟ้องต่อศาลซึ่งพิจารณาคดีอาญา หรือต่อศาลที่มีอำนาจชำระคดีแพ่งก็ได้ การพิจารณาคดีแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 40 โดยจะฟ้องรวมกับคดีอาญา หรือแยกฟ้องคดีส่วนแพ่งก็ทำได้ ถึงแม้ว่าคดีเรื่องใดถึงแม้ว่าได้ฟ้องในทางอาญาแล้ว ก็ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะฟ้องในทางแพ่งอีก การแยกฟ้องคดีแพ่งและอาญาสามารถทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 45
.
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาส่วนใหญ่มักฟ้องในมูลละเมิด ในกรณีความผิดที่กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใด อนามัย จิตใจ ชื่อเสียงโดยผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
.
ส่วนกรณีความผิดอาญาฐานลักทรัพย์ วิ่งราว ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โจรสลัด กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอกหรือรับของโจร ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกร้องทรัพย์สินหรือราคาที่เขาสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดคืน เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญา ก็ให้เรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 โดยการเรียกทรัพย์สินหรือราคาคืน ตามมาตราก่อน พนักงานอัยการจะขอรวมไปกับคดีอาญาหรือจะยื่นคำร้องในระยะใดระหว่างที่คดีอาญากำลังพิจารณาอยู่ในศาลชั้นต้นก็ได้ และให้คำพิพากษาในส่วนเรียกทรัพย์สินหรือราคาให้รวมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำพิพากษาในคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44
.
หากเป็นคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง ผู้เสียหายถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียงหรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลย ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนก็ได้ โดยจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาก่อนเริ่มสืบพยาน
.
ในกรณีที่ไม่มีการสืบพยานให้ยื่นคำร้องก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดี และให้ถือว่าคำร้องดังกล่าวเป็นคำฟ้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและผู้เสียหายอยู่ในฐานะโจทก์ในคดีส่วนแพ่งนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง โดยคำร้องดังกล่าวต้องแสดงรายละเอียดตามสมควรเกี่ยวกับความเสียหายและจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่เรียกร้อง หากศาลเห็นว่าคำร้องนั้นยังขาดสาระสำคัญบางเรื่อง ศาลอาจมีคำสั่งให้ผู้ร้องแก้ไขคำร้องให้ชัดเจนก็ได้ และคำร้องดังกล่าวจะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับคำฟ้องในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และในกรณีที่พนักงานอัยการได้ดำเนินการตามความในมาตรา 43 แล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องตามวรรคหนึ่ง เพื่อเรียกทรัพย์สินหรือราคาทรัพย์สินอีกไม่ได้
.
เนื้อหาโดย
กิตตินันท์ จารุกิจไพศาล
Paralegal
น.บ. (ธรรมศาสตร์)
Повторяем попытку...
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео
-
Информация по загрузке: