ชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรม ป ป ช เอาผิดตำรวจเพิกเฉยคดีฉ้อโกงผู้สูงอายุ สูญเกือบ 3 ล้านบาท

Описание: นายธิตินิพัทธ์ บุญคง อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลนางั่ว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้สูงอายุและผู้พิการที่ไม่สามารถเดินได้ รวมทั้งหมด 8 ราย ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเร่งรัดความคืบหน้าคดีฉ้อโกง ที่เคยแจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรท่าพล แต่จนถึงขณะนี้คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด สร้างความเสียหายรวมเกือบ 3 ล้านบาท
นายธิตินิพัทธ์เปิดเผยว่า เหยื่อทั้งหมดตกเป็นเป้าหมายของหญิงรายหนึ่ง ซึ่งใช้นามสมมุติว่า “นางสาวเอ” โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่งกายคล้ายข้าราชการ และถือเอกสารที่ดูน่าเชื่อถือ ก่อนจะหลอกยืมเงินจากผู้สูงอายุและผู้พิการในหลายพื้นที่ จนต่อมาทราบว่าเธอเป็นเพียงอาสาสมัครของศูนย์คนพิการเท่านั้น
ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนายนเรนธร แก้วโท ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ และเปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯ ได้มีหนังสือติดตามความคืบหน้าไปยัง สภ.ท่าพล มาแล้วกว่า 30 วัน แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ และจะดำเนินการส่งหนังสือเพิ่มเติมอีกครั้งในระยะเวลา 20 วัน หากยังไม่ได้รับคำชี้แจง จะออกหนังสือเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน 7 วัน

หลังจากนั้น นายธิตินิพัทธ์พร้อมกลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีล่าช้า โดยมีนางสาวนุชจรินทร์ อินประถม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เป็นผู้รับหนังสือ และระบุว่าจะสอบข้อเท็จจริงก่อนแจ้งผลให้ผู้เสียหายทราบต่อไป

นายธิตินิพัทธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานกว่า 200 หน้า พร้อมรายชื่อผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อยื่นประกอบการแจ้งความอย่างเป็นทางการ โดยเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อเรียกคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหายที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้พิการที่ถูกหลอกให้สูญเสียเงินจำนวนมาก โดยไม่สามารถเรียกร้องหรือดำเนินการใด ๆ ได้ด้วยตนเอง

กรณีนี้สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวบ้านในพื้นที่ และสะท้อนถึงช่องโหว่ในการตรวจสอบบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งควรมีมาตรการป้องกันและช่วยเหลือผู้เปราะบางจากการตกเป็นเหยื่อของกลโกงในลักษณะเช่นนี้อย่างเร่งด่วน.