ข่าว พระคงฤทธิ์ วิปุโล พร้อมนักวิชาการ และนักเคลื่อนไหว น้อมรำลึก ในหลวงรัชกาลที่ 9 (13/10/2568)

Описание: เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2568 ที่ห้องประชุมสู่ขวัญ โรงแรมบายาสิตา มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันนักวิชาการเพื่อการปฏิวัติประชาธิปไตย ร่วมกับสมัชชาปฏิรูปที่ดินเพื่อการกระจายทุนผ่านระบบสหกรณ์ สถาบันนักวิชาการกรรมกรไทย และสมัชชากรรมกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จัดงาน “13 ตุลาคม น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณนวมินทร” พร้อมจัดเสวนาเรื่อง “ทฤษฎีระบบรัฐสภา : ปฏิบัติระบบประธานาธิบดี รัฐบาลเฉพาะกาล (สภาผู้แทนอาชีพ)” พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองแนวคิดทางการเมือง เสนอแนวทางประชาธิปไตยที่ยึดหลักธรรมและหลักการปกครองเพื่อความยั่งยืนของชาติโดยมี พระคงฤทธิ์ วิปุโล (ส.ป่าสูญญ์แสรธรรม) นายวชิร ศุภรมย์ เลขาธิการขบวนการเกษตรกรปฏิวัติไทย และนายอิทธิ์สุวพงษ์ ภูมิศักดิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง ร่วมแสดงปาฐกถา

พระคงฤทธิ์ วิปุโล กล่าวว่า วันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันสำคัญที่พสกนิกรชาวไทยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “เสาหลักแห่งแผ่นดิน” และเป็นองค์เอกภาพของชาติ พระองค์ทรงมีพระบรมราโชบาย “ปกครองแผ่นดินโดยธรรม” และทรงยึดหลักทศพิธราชธรรมเป็นแนวทางในการสร้างความเป็นธรรมในสังคม จนสามารถธำรงความมั่นคงของชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตได้หลายครั้ง

พระคงฤทธิ์ กล่าวว่า แนวทางประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องแยกให้ชัดระหว่าง “รูปการปกครอง” กับ “หลักการปกครอง” การบิดเบือนทั้งสองส่วนนี้คือสาเหตุของความวิปริตในระบบการเมืองไทย ซึ่งแม้จะอ้างว่าเป็นระบบรัฐสภา แต่การปฏิบัติกลับคล้าย “ระบบประธานาธิบดี” ที่รวมศูนย์อำนาจไว้ในกลุ่มคนส่วนน้อย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ถูกตัดขาดจากอำนาจอธิปไตยของตนเอง

ท่านยังกล่าวถึงการนำอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ไปไว้ในองค์กรอิสระว่า เป็นการริดรอนพระราชอำนาจและเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในหลักวิชาการเมือง พร้อมย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่คำตอบของปัญหาทางการเมือง เพราะรัฐธรรมนูญเป็นเพียง “กฎหมายหลัก” ที่รักษาสภาพปัจจุบัน ไม่สามารถสร้างสิ่งใหม่ได้หากปราศจากหลักการปกครองที่ถูกต้อง

ด้านนายวชิร ศุภรมย์ กล่าวเสริมว่า ขบวนการเกษตรกรปฏิวัติไทยเป็นการรวมพลังของเกษตรกรและแรงงานชุมชน เพื่อสร้าง “ขบวนมวลชนปฏิวัติ” ที่ตั้งอยู่บนคุณธรรม จริยธรรม และประชาธิปไตย โดยมุ่งให้คนไทยยืนหยัดด้วยตนเองและรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทยไม่ให้สูญหาย เหมือนชนพื้นเมืองในต่างประเทศที่ถูกกลืนชาติ

การจัดงานในครั้งนี้นอกจากเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อสืบสานหลักการ “ปกครองแผ่นดินโดยธรรม” และส่งเสริมแนวทางประชาธิปไตยที่แท้จริง เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของชาติไทยต่อไป